ผู้เขียน: admin

  • Botox Dysport

    Botox Dysport

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”6446″ image_size=”original”]

    [title style=”center” text=”มาทำความรู้จักกับโบท็อกซ์ Dysport” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ถ้ากล่าวถึงการฉีดโบท็อกซ์ หนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คงจะหนีไม่พ้นแบรนด์ที่ชื่อ Dysport แบรนด์ยอดนิยมจากประเทศอังกฤษ Botox Dysport เป็นผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้ในการทำ DermoLift ซึ่งเป็นเทคนิคพิเศษที่ใช้ในการลิฟท์กรอบหน้าเพื่อให้ใบหน้าเรียวกระชับ  Botox Dysport เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผิวหนังทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ดังนั้นก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์ Dysport เราจะมาแนะนำให้คนไข้ได้รู้จักกับโบท็อกซ์แบรนด์นี้อย่างละเอียดในบทความด้านล่างนี้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”คืออะไร” link=”section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Dysport คืออะไร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    Dysport เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตัวยา Botulinum Toxin A หรือที่เรียกกันว่า Botox ขึ้นชื่อในเรื่องของการนำมาใช้ลิฟท์กรอบหน้า ด้วยเทคนิคที่เรียกว่าเดอร์โมลิฟท์ (Dermolift Technique) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นการยกกระชับปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมหรือทางการแพทย์เรียกว่า Non – Surgical Face Lift อีกทั้ง Botox Dysport ยังเป็นแบรนด์เดียวที่ผลิตในปริมาณ 500 Units ซึ่งถือว่ามีปริมาณเยอะกว่าโบท็อกซ์แบรนด์อื่นๆเป็นอย่างมาก

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”จุดเด่น” link=”section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”จุดเด่นของ Botox Dysport” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    Dysport เป็นโบท็อกซ์ที่ตัวยามีโมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์อเมริกาและเกาหลี ด้วยโมเลกุลที่เล็กจึงทำให้ตัวกระจายตัวได้ดีกว่า สามารถใช้รักษาบริเวณกว้างได้ดี เช่น ฉีดลดน่อง รักแร้ กล้ามเนื้อบริเวณแขน และบ่า นอกจากนั้นยังนิยมใช้ลิฟท์หน้ากันเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยยกกระชับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าไม่แข็งตึง สามารถยิ้มได้ตามปกติ รู้สึกได้ถึงผลลัพธ์หลังฉีดที่น่าพึงพอใจ

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [ux_image id=”6504″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ดูยังไง” link=”section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”วิธีดู Botox Dysport แท้ ดูยังไง?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดโบท็อกซ์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและปลอดภัย คนไข้ควรรู้ข้อมูลของตัวผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากการใช้โบท็อกซ์ปลอม หรือไม่ได้คุณภาพ ดังนั้นคนไข้จึงต้องทำการศึกษารายละเอียดของโบท็อกซ์อย่างละเอียดเพื่อที่จะสามารถจำแนกได้ว่าผลิตภัณฑ์ของทางคลินิกที่คนไข้เข้ารับบริการนั้นใช้โบท็อกซ์ของแท้แน่นอน ซึ่งโบท็อกซ์ Dysport ที่เราจะกล่าวถึงนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองขนาด คือ 300 Units และ 500 Units มีวิธีการสังเกตดังนี้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”300 units” link=”section4″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”วิธีการดู Botox Dysport 300 units ของแท้” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีการเปิดใช้
    • ของแท้ต้องมีเลขทะเบียนอย.และเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
    • ต้องมีเลข Lot. ที่ตรงกันสองจุด คือบริเวณขวดและที่กล่องบรรจุภัณฑ์
    • โบท็อกซ์ Dysport ของแท้จะต้องมีลักษณะของตัวยาเป็นฟิล์มบางๆเคลือบอยู่ที่ก้นขวด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”500unit” link=”section5″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”วิธีการดู Botox Dysport 500 units ของแท้” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีการเปิดใช้
    • ของแท้ต้องมีเลขทะเบียนอย.และเอกสารกำกับเป็นภาษาไทย
    • ต้องมีเลข Lot. ที่ตรงกันสองจุด คือที่ขวดและที่กล่องบรรจุภัณฑ์
    • โบท็อกซ์ Dysport ของแท้จะต้องมีลักษณะของตัวยาเป็นฟิล์มบางๆเคลือบอยู่ที่ก้นขวด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ช่วยเรื่องอะไร” link=”section6″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”Botox Dysport ช่วยในเรื่องอะไร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    Botox Dysport ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของการลดริ้วรอยบนใบหน้า ยกกระชับปรับรูปหน้า ช่วยให้มีผิวหน้าที่เต่งตึงและกรอบหน้าที่ชัด นอกจากนั้นด้วยโมเลกุลที่เล็ก ยังมีประสิทธิภาพมากในการฉีดบริเวณที่กว้าง เนื่องจากตัวยาสามารถกระจายตัวได้ดีในบางเคสก็ใช้ Botox Dysport นำมาฉีดเพื่อลดเหงื่อได้อีกด้วย

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”เหมาะกับใคร” link=”section7″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”Botox Dysport เหมาะกับใคร ?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า เช่น บริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ ฉีดเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวและมีขนาดที่เล็กลง
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงหน้าให้ดูเรียวเล็กและเป็น V – Shape อีกทั้งยังช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติของต่อมผลิตเหงื่อ ในบางรายที่มีเหงื่ออกมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้เกิดกลิ่นตัว Botox Dysport จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”อันตรายไหม” link=”section8″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”Botox Dysport อันตรายไหม ?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Dysport เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานมีความบริสุทธิ์สูง สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการตกค้างของโบท็อกซ์ จึงไม่มีความอันตรายใดๆ เพียงแต่คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นอย่างละเอียดก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลังจากการฉีดผิดตำแหน่งโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือแม้กระทั่งการถูกคลินิกนำโบท็อกซ์ปลอมมาฉีดให้ คนไข้จึงควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นอย่างละเอียดก่อนรับบริการ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อดี” link=”section9″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ divider=”true” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” depth=”2″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อดีของ Botox Dysport” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณใบหน้าและลำคอได้
    • ทำให้รูปหน้าเรียวเล็กลงและกรอบหน้าชัดขึ้น
    • ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ทำให้คนไข้สบายใจได้ เลยว่ามีความปลอดภัยแน่นอน
    • ไม่ต้องพักฟื้น หลังจากฉีดเสร็จ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
    • ด้วยโมเลกุลที่เล็กจึงทำให้ตัวกระจายตัวได้ดีกว่า สามารถใช้รักษาบริเวณกว้างได้ดี เช่น ฉีดลดน่องปูด รักแร้ กล้ามเนื้อแขน และลิฟท์กรอบหน้า

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อเสีย” link=”section10″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ divider=”true” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” depth=”2″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของ Botox Dysport” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • คนไข้อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะฉีด แต่โดยทั่วไปทางคลินิกจะมีการประคบน้ำแข็งทำให้ลดอาการเจ็บปวดได้
    • หากฉีดในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้แสดงสีหน้าไม่ได้ หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ
    • คนไข้ต้องเลือกฉีดกับแพทย์และคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น หากฉีดจากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจเป็นอันตรายได้
    • สำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยาหรือหญิงตั้งครรภ์ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีดทุกครั้ง

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ราคาเท่าไหร่” link=”section11″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Dysport ราคาเท่าไหร่?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    เนื่องจากโบท็อกซ์ Dysport เป็นแบรนด์ยอดนิยมจากประเทศอังกฤษ จึงทำให้ราคาของโบท็อกซ์ค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพในการรักษา ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโบท็อกซ์ที่คุ้มค่า คุ้มราคา โดยราคาของ Botox Dysport จะแบ่งได้เป็นสองราคา คือราคาสำหรับ 300 Units และ ราคาสำหรับ 500 Units

    • Botox Dysport 300 Units ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท – 20,000 บาท
    • Botox Dysport 500 Units ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาท – 30,000 บาท

    ซึ่งแต่ละคลินิกก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไปเนื่องจากมีการคิดราคาค่าบริการหรือโปรโมชั่นที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละคลินิก

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”section12″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Dysport เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษที่ได้รับความนิยมมาก เป็นโบท็อกซ์หนึ่งในโบท็อกที่มีคุณภาพดีและเป็นแบรนด์เดียวที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังมีปริมาณที่คุ้มราคา ดังนั้นหากใครที่กำลังมองหาโบท็อกซ์ที่ใช้แก้ปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย กรอบหน้าไม่ชัด หรือลดขนาดของกล้ามเนื้อในพื้นที่บริเวณกว้าง Dysport ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจจะฉีดโบท็อกซ์

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ Botox

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

     

    [/col]

    [/row]
    [ux_image id=”6334″ image_size=”original” link=”https://44clinic.com/articles/”]

  • Botox Nabota

    Botox Nabota

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”6447″ image_size=”original”]

    [title style=”center” text=”มารู้จักกับ Botox Nabota” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Nabota ราชินีแห่งวงการโบท็อกซ์ ที่ได้รับความนิยมจากหลากหลายคลินิกชั้นนำในประเทศไทย และประเทศเกาหลี ด้วยการให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเป็นที่น่าพึงพอใจสำหรับหลายๆคน รวมถึงมีราคาที่สามารถจับต้องได้ ทำให้โบท็อกซ์ Nabota ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศเกาหลีและในประเทศไทย ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโบท็อกซ์ Nabota กันอย่างละเอียดเพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจก่อนทำการรักษา

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″ depth=”2″]

    [title style=”center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”คืออะไร” link=”section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Nabota คืออะไร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    Botox Nabota เป็นหนึ่งในโบท็อกซ์ยอดนิยมสำหรับวงการเสริมความงาม เป็นผลิตภัณฑ์ชื่อดังจากประเทศเกาหลี เป็นโปรตีนที่มีความบริสุทธิ์ ซึ่งออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระชับผิว ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (United States Food and Drug Administration) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ คนไข้จึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย ไม่มีสารตกค้างแน่นอน

    Botulinum Toxin Type A คืออะไร

    Botulinum Toxin เป็นโปรตีนสกัดจากเชื้อแบคทีเรียซึ่งมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในด้านความสวยความงาม ทั้งในเรื่องการลดริ้วรอยบนใบหน้า การทำให้ใบหน้าเรียวหรือเล็กลง อีกทั้งยังนำไปใช้ในการทำให้ต้นขาและต้นแขนเรียวขึ้นได้อีกด้วย โดย Toxin นี้คนทั่วไปอาจจะรู้จักกันในชื่อของ Nabota, Botulinum Toxin, Dysport, Neuronox, Botulax หรือ Hugel เป็นต้น โดยชื่อต่างๆ เหล่านี้เป็นชื่อการค้าของแต่ละบริษัทผู้ผลิต ซึ่ง Toxin ของแต่ละบริษัทจะมีความแตกต่างกันในด้านของระดับความบริสุทธิ์ซึ่งมีวีธีการผลิตที่แตกต่างกันทำให้ความบริสุทธิ์ที่ได้นั้นไม่เท่ากัน

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”จุดเด่น” link=”section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”จุดเด่นของนาโบตะ(Nabota)” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Nabota เป็นแบรนด์ยอดนิยมจากประเทศเกาหลี ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งมียอดขายมากถึง 80 ประเทศทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีการสกัดพิเศษ High – Pure Technology ทำให้โบท็อกซ์ Nabota ถูกสกัดออกมาได้ความบริสุทธิ์มากถึง 98.7% ได้ผ่านการตรวจรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของไทย นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยและการทดสอบมากมาย ถึงประสิทธิภาพในการทำงานของตัวยาว่าสามารถให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ มีผลการรักษาที่ยาวนานกว่าโบท็อกซ์เกาหลีชนิดอื่น และมีเปอร์เซ็นการดื้อยาที่ค่อนข้างต่ำ ปลอดภัย ไม่ทิ้งสารตกค้าง ทำให้ Botox Nabota เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั้งในทวีปยุโรป อเมริกาและเอเชีย

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”6505″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”ดูยังไง” link=”section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”วิธีดู Botox Nabota แท้ ดูยังไง?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจเลือกฉีดโบท็อกซ์กับแต่ละคลินิก คนไข้ควรศึกษารายละเอียดของตัวผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยของคนไข้เนื่องจากในบางคลินิกอาจมีการใช้โบท็อกซ์ปลอมซึ่งอาจะก่อให้เกิดปัญหาและอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่คนไข้ 44Clinic จึงได้รวบรวมวิธีการสังเกต Botox Nabota แท้ มาไว้ให้ทั้งหมดแล้วในข้อมูลด้านล่างนี้

    โบท็อกซ์นาโบตะ แบ่งออกได้เป็นสองขนาดคือ 100 Units และ 200 Units

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”100 unit” link=”section4″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold-center” text=”วิธีการดู Botox NABOTA 100 units ของแท้” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีการเปิดใช้ และมีสติ๊กเกอร์ Hologram ติดอยู่ด้านบน
    • ของแท้ต้องเป็นกล่องสีดำ โลโก้สีทองเท่านั้น เป็นแบบเดียวที่ขึ้นทะเบียน อย.ไทย
    • Nabota ของแท้จะต้องมีรอยประที่บริเวณหน้ากล่องเพื่อไว้เปิด
    • ข้างขวดและข้างกล่องระบุชื่อ Montana Marketing
    • มีเลขทะเบียน อย.และเลข Lot วันหมดอายุ บริเวณข้างกล่องและข้างขวดที่ตรงกัน
    • มีสติ๊กเกอร์ Hologram สีเงินติดอยู่บริเวณด้านข้างขวด สีเงิน มีตัวอักษร DW
    • มีรูปคิวอาร์โค้ด เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์เป็นของแท้
    • โบท็อกซ์ Nabota ของแท้จะต้องมีลักษณะของตัวยาเป็นฟิล์มบางๆเคลือบอยู่ที่ก้นขวด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”200 unit” link=”section5″ bullet=”false”]

    [title style=”bold-center” text=”วิธีการดู Botox NABOTA 200 units ของแท้” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    •  กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีการเปิดใช้ และมีสติ๊กเกอร์ Hologram ติดอยู่ด้านบน
    • ของแท้ต้องเป็นกล่องแดง โลโก้สีทองเท่านั้น เป็นแบบเดียวที่ขึ้นทะเบียน อย.ไทย
    • Nabota ของแท้จะต้องมีรอยประที่บริเวณหน้ากล่องเพื่อไว้เปิด
    • ข้างขวดและข้างกล่องระบุชื่อ Montana Marketing
    • มีเลขทะเบียน อย.และเลข Lot วันหมดอายุ บริเวณข้างกล่องและข้างขวดที่ตรงกัน
    • มีสติ๊กเกอร์ Hologram สีเงินติดอยู่บริเวณด้านข้างขวด สีเงิน มีตัวอักษร DW
    • มีรูปคิวอาร์โค้ด เพื่อให้สแกนตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์เป็นของแท้
    • โบท็อกซ์ Nabota ของแท้จะต้องมีลักษณะของตัวยาเป็นฟิล์มบางๆเคลือบอยู่ที่ก้นขวด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ช่วยเรื่องอะไร” link=”section6″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”Botox Nabota ช่วยในเรื่องอะไร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ในโบท็อกซ์ Nabota มีส่วนประกอบหลักคือ สาร Botulinum Toxin A ซึ่งเป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ใช้ในการแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย ใบหน้าเหี่ยวย่นไม่กระชับ ปรับโครงหน้าให้เรียวสวย ฉีดเพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ อีกทั้งยังสามารถฉีดลดน่องให้เล็กลงได้อีกด้วย

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”เหมาะกับใคร” link=”section7″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Nabota เหมาะกับใคร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยบนใบหน้า ซึ่งเกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น บริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว ตีนกา โบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ผลลัพธ์ที่ได้คือริ้วรอยดูจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้นและทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกราม หรือแม้แต่บริเวณน่อง โบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ คลายตัวและมีขนาดที่เล็กลง
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีใบหน้าที่เรียวกระชับและได้รูป โดยใช้โบท็อกซ์ในการลิฟท์ติ้งบริเวณกรอบหน้าเพื่อยกกระชับ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดปัญหาเรื่องเหงื่อ เมื่อฉีดเข้าไปที่บริเวณต่างๆเช่น ใต้รักแร้ ไรผม หรือฝ่ามือ โบท็อกซ์จะช่วยให้ต่อมเหงื่อมีการทำงานน้อยลง ช่วยลดปัญหาการมีกลิ่นตัวได้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”อันตรายไหม” link=”section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Nabota อันตรายไหม?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Nabota เป็นแบรนด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลายองค์กรที่มีชื่อเสียง อีกทั้งด้วยยอดขายที่มีมามากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ทำให้โบท็อกซ์ Nabota เป็นที่น่าเชื่อถือ การันตีด้วยการให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ซึ่งสารสกัดที่อยู่ในโบท็อกซ์นั้นมีความบริสุทธิ์ที่สูงถึง 98.7% อีกทั้งยังสามารถสลายได้เองโดยธรรมชาติ จึงไม่ตกค้าง ไม่เป็นอันตรายต่อคนไข้อย่างแน่นอน แต่การฉีดโบท็อกซ์ต้องฉีดกับแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ ดังนั้นคนไข้จึงต้องศึกษหาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อดี” link=”section9″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” depth=”2″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อดีของ Botox Nabota” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

      • ตัวยามีความบริสุทธิ์มากถึง 98.7% ทำให้โอกาสที่จะดื้อยาน้อยมาก
      • เห็นผลการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างรวดเร็วกว่ายี่ห้ออื่น จากประเทศเดียวกัน
      • ออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่าโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีตัวอื่น
      • ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งจนเกินไป เพราะตัวยามีความบริสุทธิ์ที่สูงมาก
      • เป็นสารสกัดที่บริสุทธิ์สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ
      • ไม่ต้องพักฟื้น หลังจากฉีดเสร็จ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อเสีย” link=”section10″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” depth=”2″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของ Botox Nabota” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

      • ถ้าเลือกฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดหลังการฉีดได้ เช่น หางตาตก ยิ้มไม่ขึ้น ยักคิ้วไม่ได้ ใบหน้าดูแข็งทื่อ เป็นต้น
      • หากฉีดในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้แสดงสีหน้าไม่ได้ หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ
      • หากฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้ใบหน้าผิดรูปได้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ราคาเท่าไหร่” link=”section11″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Nabota ราคาเท่าไหร่?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    เนื่องจากโบท็อกซ์ Nabota มีฐานผลิตอยู่ที่ประเทศเกาหลี จึงทำให้ราคาของโบท็อกซ์ไม่สูงมากเมื่อเทียบเท่ากับแบรนด์อื่นจากทางฝั่งยุโรปหรืออเมริกา ราคาของโบท็อกซ์จึงอยู่ในเรทราคาที่สามารถจับต้องได้ โดยราคาของ Botox Nabota จะแบ่งได้เป็นสองราคา คือราคาสำหรับ 100 Units และ ราคาสำหรับ 200 Units

      • Botox Nabota100 Units ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท – 12,000 บาท
      • Botox Nabota 200 Units ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 9,000 บาท – 16,000 บาท

    ซึ่งแต่ละคลินิกก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไปเนื่องจากมีการคิดราคาค่าบริการหรือโปรโมชั่นที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละคลินิก

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”section12″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Nabota เป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลีที่ได้รับความนิยม และได้รับการรับรองมาตรฐานจากอเมริกา เป็นโบท็อกซ์ที่คุณภาพดีและมีราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบเท่ากับแบรนด์อื่นจากประเทศฝั่งยุโรปและอเมริกา เพียงแต่อาจมีอายุการใช้งานที่น้อยกว่าแบรนด์เหล่านั้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบเร่งด่วนในราคาที่ไม่สูงมาก

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ Botox

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

     

    [/col]

    [/row]
    [ux_image id=”6334″ image_size=”original” link=”https://44clinic.com/articles/”]

  • Botox Allergan

    Botox Allergan

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”6448″ image_size=”original”]

    [title style=”center” text=”ทำความรู้จักกับ Botox ยี่ห้อ Allergan” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    สำหรับในวงการเสริมความงามแล้ว คงจะไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของ Allergan โบท็อกซ์ที่เป็นที่นิยมสูงสุดในตลาดของการเสริมความงาม ณ ขณะนี้ ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคนไข้มาเจาะลึกเกี่ยวกับโบท็อกซ์ยี่ห้อนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ดีขนาดไหน ทำไมคนจึงนิยมเลือกฉีดโบท็อกซ์ชนิดนี้กัน

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”คืออะไร” link=”section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Allergan คืออะไร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    สารโบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum Toxin A) ตัวนี้ เป็นผลิตภัณฑ์จาก บริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทยาชื่อดังจากประเทศอเมริกา ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ยี่ห้อนี้จะถูกบรรจุมาในขวดสุญญากาศ มีทั้งหมดสามขนาด ได้แก่ 50 Units และ 100 Units เวลาที่จะนำมาฉีดให้กับคนไข้ แพทย์จะทำการผสมกับสารละลาย Normal Saline Non – Preservative แล้วจึงฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”จุดเด่น” link=”section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”จุดเด่นของ Botox Allergan ?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Allergan มีจุดเด่นในเรื่องของการออกฤทธิ์ที่แม่นยำ เนื่องจากยามีการกระจายตัวแคบ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการฉีดโบท็อกซ์ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% จึงสามารถลดโอกาสในการดื้อยาได้ดี

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”6502″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”แท้” link=”section3″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”วิธีดู Botox Allergan แท้” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ปัจจัยสำคัญของความปลอดภัยในการฉีดโบท็อกซ์นั้นก็คือคนไข้ ต้องสามารถสังเกตได้ว่าโบท็อกซ์ที่คลินิกเลือกใช้นั้นเป็นของแท้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นคนไข้อาจจะได้รับผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายเนื่องจากการใช้โบท็อกซ์ปลอม ดังนั้นคนไข้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาให้ละเอียดว่า Botox Allergan แท้นั้น มีลักษณะเป็นอย่างไร เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่คนไข้ ทาง 44Clinic จึงได้รวบรวมวิธีการสังเกต Botox Allergan แท้ มาไว้ให้ทั้งหมดแล้วในข้อมูลด้านล่างนี้

    • กล่องบรรจุภัณฑ์ต้องไม่มีร่องรอยการเปิดใช้ และปิดสนิท
    • มีเลขทะเบียน อย. ที่กล่อง และเอกสารกำกับยาภายในกล่องที่เป็นภาษาไทย
    • ข้างกล่องจะต้องมีตัวหนังสือสีแดงกำกับว่าเฉพาะสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เฉพาะทางอยู่ประจำ
    • มีรอยประข้างกล่องสำหรับการแกะใช้งาน
    • มีสติ๊กเกอร์ลายน้ำที่เขียนว่า Allergan พร้อมโลโก้ ซีลที่ฝากล่องเพื่อป้องกันการเปิดใช้งาน
    • เลข Lot. ที่กล่องกับที่ขวดต้องตรงกัน
    • ก้นขวดต้องเป็นยาสูญญากาศ ไม่ใช่รูปแบบน้ำหรือผง
    • ลายน้ำที่เขียนว่า Allergan พร้อมกับโลโก้ จะต้องเป็นสี Hologram อยู่ที่บริเวณข้างขวด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ช่วยเรื่องอะไร” link=”section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Allergan ช่วยในเรื่องอะไร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    สาร Botulinum Toxin A หรือที่เรานิยมเรียกกันว่าโบท็อกซ์นั้น เป็นโปรตีนที่ออกฤทธิ์ทำให้เซลล์ของปลายประสาทไม่ทำงาน ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว หรือที่เข้าใจกันทั่วไปว่า กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต

    ในแวดวงของการเสริมความงาม นิยมใช้โบท็อกซ์ในการช่วยลดเลือนริ้วรอย ความเหี่ยวย่นบนในหน้า ฉีดเพื่อปรับให้ใบหน้าเรียวได้รูป V – Shape หรือแม้กระทั่งใช้ฉีดลดน่องให้ขาดูเรียวเล็ก และลดกลิ่นตัวจากต่อมเหงื่อบริเวณรักแร้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”เหมาะกับใคร” link=”section5″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Allergan เหมาะกับใคร?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย เพราะโบท็อกซ์จะเข้าไปส่งผลทำให้บริเวณที่เกิดปัญหา เช่น ริ้วรอยบนหน้า หว่างคิ้ว ตีนกา เนื่องจากโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวเรียบเนียนขึ้นและทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
    • เหมาะสำหรับผู้ที่อยากลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกราม หรือน่อง โบท็อกซ์จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีขนาดเล็กลง
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา เกี่ยวกับการมีเหงื่อปริมาณมาก ตามบริเวณต่างๆ เช่น ใต้รักแร้ ไรผม หรือฝ่ามือเป็นต้น โดยการทำงานของโบท็อกซ์จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อให้ลดน้อยลง

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”อันตราย” link=”section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Allergan อันตรายไหม?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Allergan ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ได้รับรอง จาก USFDA U.S. Food and Drug Administration (USFDA) หรือองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา มีความบริสุทธิ์มากที่สุดในตระกูลโบท็อกซ์ สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงมั่นใจได้เลยว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพียงแต่คนไข้ต้องเช็คให้มั่นใจว่าโบท็อกซ์ที่ใช้เป็นของแท้ และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” depth=”2″]

    [scroll_to title=”ข้อดี” link=”section7″ bullet=”false”]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อดีของ Botox Allergan” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

      • เมื่อฉีดไปแล้ว ตัวยามีการกระจายตัวแคบ จึงทำให้ได้ผลการรักษาที่แม่นยำ
      • เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
      • มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% ส่งผลให้มีโอกาสในการที่คนไข้จะดื้อยาน้อยมาก
      • การทำงานของโบท็อกซ์ Allergan ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล
      • นอกจากโบท็อกซ์ Allergan จะสามารถช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยต่างๆได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีความสามารถพิเศษในการช่วยทำให้รุขุมขนกระชับ ต่อมไขมันลดลง ทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อเสีย” link=”section8″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” depth=”2″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของ Botox Allergan” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

      • มีราคาค่อนข้างสูงมาก เมื่อเทียบกับโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น
      • เนื่องจากเป็นโบท็อกซ์ที่นิยมมากจึงอาจจะทำให้มีการผลิตภัณฑ์ปลอมหรือลอกเลียนแบบ ดังนั้นคนไข้จึงต้องเช็คตัวยาให้ดีก่อนที่จะกระทำการรักษา และเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ราคาเท่าไหร่” link=”section9″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”Botox Allergan ราคาเท่าไหร่?” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    สำหรับราคาของ Botox Allergan นั้น จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนยูนิตที่ใช้ ซึ่ง Botox Allergan นั้นจะแบ่งออกได้เป็นสองแบบ คือ 50 Units และ 100 Units ซึ่งราคาจะจำแนกเป็นดังนี้

      • Botox Allergan 50 Units ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,900 บาท – 12,000 บาท
      • Botox Allergan 100 Units ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 12,900 บาท – 20,000 บาท

    ราคาของโบท็อกซ์อาจจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกและขึ้นอยู่กับปริมาณยูนิตที่คนไข้จำเป็นต้องใช้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    โบท็อกซ์ Allergan เป็นโบท็อกซ์ ชนิดที่ได้รับความนิยมและมีมาตรฐานสูง เป็นทางเลือกที่ดีและปลอดภัยสำหรับคนไข้ที่กำลังมองหาโบท็อกซ์ที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี เป็นธรรมชาติและมีอายุการออกฤทธิ์ได้ยาวนาน ทั้งนี้ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานในการฉีด ซึ่ง 44Clinic เป็นคลินิกที่ได้รับรองมาตรฐาน พร้อมด้วยแพทย์และทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้บริการ คนไข้จึงมั่นใจได้เลยว่าเลือกรับบริการกับเราจะได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจและปลอดภัยแน่นอน

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ Botox

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

     

    [/col]

    [/row]
    [ux_image id=”6334″ image_size=”original” link=”https://44clinic.com/articles/”]

  • ฟิลเลอร์แก้มตอบ

    ฟิลเลอร์แก้มตอบ

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5835″ image_size=”original”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์แก้มตอบคืออะไร” tag_name=”h1″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    หลายคนอาจกำลังพบกับปัญหาที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน เพราะ “แก้มตอบ” “โหนกสูง” ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย โหนกแก้มสูง ใบหน้ามีเค้าโครงที่ไม่ชัดเจน โค้งเว้าไม่เท่ากันดังนั้นในบทความนี้จะมาแนะนำให้คนไข้ได้รู้จักกับอีกหนึ่งในวิธีที่เป็นที่นิยมที่สุดในการใช้แก้ไขปัญหาแก้มตอบ ซึ่งได้แก่การฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มแก้มตอบ

    ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็มประเภท ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เมื่อนำมาฉีดเข้าที่บริเวณแก้มตอบ จะช่วยเติมเต็มผิวบริเวณที่ฉีดให้ดูตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู โหนกแก้มที่สูงจะถูกอำพรางทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งสารไฮยาลูรอนิคแอซิตชนิดนี้ เป็นสารชนิดเดียวกับสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาเองได้ ตามธรรมชาติจึงสามารถสลายตัวไปได้เองไม่ทำให้เกิดการตกค้าง ดังนั้นจะไม่เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย ทำให้ใบหน้าสวยขึ้นได้อย่างปลอดภัยและดูเป็นธรรมชาติ

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”bold-center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner_1]
    [col_inner_1 span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″ padding=”0px 0px 0px 0px”]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” margin=”0px 0px 0px 0px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover_alt=”zoom” link=”Tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ช่วยเรื่องอะไร” link=”#section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ฟิลเลอร์แก้มตอบ สามารถช่วยเติมเต็มให้กับบุคคลที่มีแก้มตอบ ยุบเป็นแอ่งลึก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูแก่กว่าวัย  ดังนั้นเมื่อฉีดเข้าไปเติมเต็มจะช่วยให้ใบหน้าดูเต็มขึ้น เพิ่มความสดใส ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ห้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนทันทีหลังทำเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาการศัลยกรรม ไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากมีความบริสุทธิ์และสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”เหมาะกับใคร” link=”#section2″ bullet=”false”]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5854″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบจากพันธุกรรม คือมีบริเวณโหนกแก้มที่สูงเห็นได้ชัด เมื่อเติมฟิลเลอร์เข้าไปจะทำให้บริเวณโหนกแก้มดูลดลงและทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วอาจจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของการขาดสารอาหาร ระบบเผาผลาญลดน้อยลง สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ หรือแม้กระทั้งอาจจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแก้มยุบตัวลง ทำให้เกิดเป็นปัญหาโดยที่คนไข้ไม่รู้ตัว การเติมฟิลเลอร์แก้มตอบจะทำให้ใบหน้าดูไม่ซูบและไม่ผอมจนเกินไป
    • เหมาะสำหรับผู้ที่อายุเพิ่มมากขึ้น เพราะอายุที่มากขึ้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ไขมันบริเวณแก้มเกิดการหดตัว จึงทำให้เกิดปัญหาแก้มตอบ ดูโทรม ไม่สดใส การเติมฟิลเลอร์แก้มตอบจึงเหมาะสำหรับคนที่ประสบกับปัญหาเหล่านี้
    • เหมาะสำหรับผู้ที่เคยจัดฟันมา เพราะการจัดฟันอาจจะทำให้โครงกระดูกใบหน้ามีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะบริเวณแนวกราม หลังจากที่กระดูกโครงหน้าและกระดูกฟันเข้าที่แล้ว จะส่งผลให้ใบหน้ามีการหดตัวตามขากรรไกรที่บีบเข้าจากการจัดฟันจึงทำให้บริเวณแก้มเกิดเป็นร่องลึก

    [gap height=”80px”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”อันตรายไหม” link=”#section3″ bullet=”false”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์แก้มตอบอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบไม่เป็นอันตรายเพราะเนื่องจากสารที่ฉีดเข้าไปเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกาย เมื่อนำเข้าไปฉีดจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. และต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเท่านั้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.215)” bg_radius=”25″]

    [scroll_to title=”ข้อดี” link=”#section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ” tag_name=”h2″ color=”rgb(13, 109, 36)”]

    [ux_text text_color=”rgb(0,0,0)”]

      1. สามารถแก้ปัญหาการมีแก้มตอบได้อย่างตรงจุด
      2. ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจน เห็นความแตกต่างได้ทันทีหลังทำ
      3. มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง
      4. เป็นการแก้ปัญหาโดยที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม ไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน

    [/ux_text]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.215)” bg_radius=”25″]

    [scroll_to title=”ข้อเสีย” link=”#section5″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ” tag_name=”h2″ color=”rgb(255, 1, 1)”]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_text text_color=”rgb(0,0,0)”]

      1. อาจมีจุดจ้ำเลือด รอยเขียวช้ำ หรือรอยแดงเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด แต่จะสามารถหายไปได้เองภายใน 1 – 2 สัปดาห์
      2. ในบางรายอาจะมีอาการบวมเล็กน้อยหลังฉีด แต่จะยุบลงเมื่อผ่านไป 2 – 4 สัปดาห์
      3. เนื่องจากสามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ จึงมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่ไม่ถาวร

    [/ux_text]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”บวมกี่วัน” link=”#section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบบวมกี่วัน” tag_name=”h2″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    บางรายอาจมีอาการบวมตึง มีรอยแดงเล็กๆจากเข็มประมาณ 1 – 2 วัน และจะหายไปเองประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบหรือในบางรายอาจไม่พบอาการบวมเลย ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีด บริเวณขมับที่เป็นร่องหรือเป็นหลุม จะดูตื้นขึ้นและใบหน้าจะดูมีสัดส่วน เรียวสวยขึ้น แต่จะเห็นผล 100% ในระยะเวลาหลังฉีดไปแล้วประมาณ 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะยึดตัวและคงตัว

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]
    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span=”4″ span__sm=”12″ padding=”0px 0px 0px 0px”]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” margin=”0px 0px 0px 0px” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col_inner_1]
    [col_inner_1 span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover_alt=”zoom” link=”Tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col_inner_1]
    [col_inner_1 span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์แก้มตอบอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิคเอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และในร่างกายมีเอนไซม์ที่สามารถสลายออกเองได้ โดยทั่วไปแล้วสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid จะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ซึ่งระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด ยกเว้นฟิลเลอร์บางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ หรือระยะเวลาอาจแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่สำคัญคือคนไข้ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และดื่มน้ำให้มากๆเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำและน้ำมันในชั้นผิวเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5960″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ยี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบยี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • Juvederm Volift เป็นเนื้อเจลที่มีความเข้มข้นสูง มีความนิ่มระดับปานกลาง เรียบเนียน ไม่ไหล เหมาะสำหรับการฉีดบริเวณแก้มตอบ
    • Juvederm Voluma เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะแข็งและฟูระดับปานกลาง มีโมเลกุลใหญ่ มีความหนาแน่นและคงตัวได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดเติมบริเวณแก้มตอบ เมื่อฉีดเข้าไปจะทำให้ผิวเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ
    • Restylane Volyme เป็นเนื้อเจลออกแบบมาเติมชั้นผิว บริเวณใบหน้าอิ่มฟู เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ เหมาะที่จะฉีดบริเวณขมับ แก้มตอบ หน้าผากได้ดี ไม่เป็นคลื่น กระจายตัวได้ดีมาก
    • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึก ขมับ ใต้ตา หน้าผาก แก้มตอบ คาง แก้มส้ม และริมฝีปาก

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ย้อปฏิบัติ” link=”#section9″ bullet=”false”]

    [section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

    [row_inner h_align=”center”]

    [col_inner span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

    ข้อปฎิบัติหลังฉีดแก้มตอบ

    คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [button text=”คลิกที่นี่” color=”secondary” style=”shade” size=”large” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

    [/section]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่ม หน้าไม่โทรม ใบหน้าดูสดใส เป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุดที่ให้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และเห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ โดยแพทย์จะเป็นคนประเมินคนไข้ว่าเหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์หรือไม่ หรือแม้กระทั่งว่าควรใช้ฟิลเลอร์ “ยี่ห้อไหน/รุ่นไหน” แต่ทั้งนี้คนไข้ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนทำการฉีดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยค่ะ

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]
    [row_inner]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]

    [/row_inner]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

  • ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์

    ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์

    [ux_image id=”5853″ image_size=”original”]

    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์” tag_name=”h1″ size=”150″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

                   สวัสดีค่ะ ในบทความนี้ 44Clinic จะมาแนะนำถึงการดูแลตัวเองและข้อควรปฏิบัติที่ถูกต้องหลังการฉีดฟิลเลอร์ที่ใครหลายๆคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ต้องทราบก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น จึงใช้เวลาไม่นานขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน โดยแพทย์จะใช้เวลาในการฉีดฟิลเลอร์อยู่ประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์เสร็จเป็นที่เรียบร้อย คนไข้จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในบริเวณที่ฉีดทันที แต่หลังจากคนไข้ฉีดไปแล้ว 4 – 5 วัน จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ 100% โดยฟิลเลอร์จะมีอายุอยู่ได้ 1 – 2 ปี และจะค่อยๆสลายเองไปตามธรรมชาติ บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์จะหายบวม เข้าที่ดูเป็นธรรมชาติ และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ 44Clinic จึงรวบรวมการดูแลตัวเองและข้อปฏิบัติต่างๆมาให้ทุกท่านดังนี้

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”วิธีการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์” tag_name=”h2″ size=”120″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    1.งดนอนราบหลังการฉีดฟิลเลอร์

    งดนอนราบในช่วง 4 ชั่วโมงแรกหลังทำ ควรนอนยกหัวให้สูงกว่าระดับหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ และไม่ควรนอนตะแคง ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา เพื่อป้องกันการกดทับบนใบหน้าเพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปได้

    2. ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดและความร้อน

    หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วในช่วง 48 ชั่วโมงแรก แพทย์จะแนะนำให้คนไข้หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงและกิจกรรมที่กระตุ้นทำให้ใบหน้าแดง เช่น การเข้าห้องซาวน่าหรือการแช่ออนเซ็น การตากแดด การออกกำลังกายหนักๆ ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะความร้อนจะทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่เข้าใจผิดกัน แต่ความร้อนจะทำให้ผิวยืดหดมากกว่าปกติ ส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วผิวอาจจะมีความเซนซิทีฟมากกว่าปกติ การโดนความร้อนอาจทำให้เกิดรอยแดง การระคายเคืองและผื่นขึ้นจากรอยเข็มที่ยังเปิดอยู่

    3.ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

    หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ไป สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือห้ามกด นวด รวมถึงการสัมผัสแรงๆในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีดได้และในบางเคส แพทย์ใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การนวดจึงทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้ ทั้งนี้หากหลังฉีดฟิลเลอร์คนไข้มีอาการคันหรือระคายเคือง ห้ามเกาโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบของผิวได้ หากอาการคันไม่หายไปภายใน 3 วัน ควรรีบไปพบแพทย์ที่ทำการรักษาเพื่อความปลอดภัย

    4.ควรหลีกเลี่ยงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

    หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะแนะนำให้งดการดื่มแอลกอลฮอล์ ของมึนเมา เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด อาจจะทำให้เลือดออกในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้ การสูบบุหรี่หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น สูบบุหรี่หลังจากฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก อาจจะทำให้รูปปากที่แพทย์ได้ทำการฉีดปากผิดรูปได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อยประมาณ 2 – 3 วัน

    5. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด

    กลุ่มยาที่จะมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และยาแก้อักเสบบางชนิด เป็นยาที่ควรหลีกเลี่ยงทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นการฉีดลงไปในผิวหนังชั้นลึก ถ้าเกิดโดนเส้นเลือดขณะฉีดอาจทำให้เลือดหยุดไหลได้ช้า ทำให้ช้ำง่ายกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย และไม่เสี่ยงช้ำ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์

    6.ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด หรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของกรดผลไม้

    ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานวิตามิน เช่น กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสมและวิตามินอี ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าสารเหล่านั้นจะทำปฎิกิริยาหรือส่งผลร้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่สารเหล่านั้นจะทำให้คนไข้เสี่ยงกับภาวะช้ำได้ง่ายกว่าปกติ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือ Retinoids ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดสารฟิลเลอร์ได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงก่อนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของคนไข้

    7.ควรหลีกเลี่ยงการแว็กซ์ขน ถอนขน ย้อมสีขน หรือใช้ครีมกำจัดขน

    หลังจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วผิวหนังบริเวณที่ฉีดอาจมีความบางลงชั่วคราว ประมาณ 2 – 3 วัน ซึ่งหากในระหว่างนี้ มีการกำจัดขนด้วยวิธีต่างๆ เช่น การแว็กซ์ขน ถอนขน ใช้ครีมกำจัดขน หรือทำการย้อมสีเส้นขน ก็อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เสี่ยงต่อการอักเสบและติดเชื้อได้ที่ผิวหนัง ดังนั้นคนไข้จึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนจะดีที่สุด

    8. ควรดื่มน้ำมากๆ

    ฟิลเลอร์ คือ สารไฮยารูลอนิค เอซิด ซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำได้ดี หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วในช่วง 4 – 5 วันแรก แพทย์จะแนะนำให้ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงทน เพราะการดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ที่เป็นสารอุ้มน้ำ มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น และทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูฟูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ

    การฉีดฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานที่สุด 2 ปีและจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมากหากคนไข้ดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตของคนไข้ได้หากทำข้อปฏิบัตินี้ได้ โดยเฉพาะการดื่มน้ำ การไม่ออกแดดหรือทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำจำนวนมากๆได้ ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี สวย ดูเป็นธรรมชาติ และหากมีอาการบวมแดง นานเกิน 3 วัน ควรรีบปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษา

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]
    [row_inner]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    [ux_text line_height=”2.25″]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/ux_text]

    [/col]

    [/row_inner]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก

    ฟิลเลอร์หน้าผาก

    [ux_image id=”5869″ image_size=”original”]

    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์หน้าผาก” tag_name=”h1″]

    [ux_text text_color=”rgb(0,0,0)”]

    การเสริมหน้าผาก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า เสริมให้ใบหน้าดูมีมิติ นอกจากนั้นในยุคปัจจุบัน ในทางของคนที่ทำธุรกิจ หรือค้าขายยังมีความเชื่อว่าการทำหน้าผากนั้นจะช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้กับคนที่ทำอีกด้วย ซึ่งฟิลเลอร์ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ เนื่องจากสามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม และไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น ซึ่งในบทความนี้ 44Clinic จะรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากทั้งหมดไว้เพื่อให้คนไข้ได้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดประกอบกับการตัดสินใจ

    [/ux_text]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคืออะไร” link=”#section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การเสริมหน้าผากด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสารเติมเต็มที่เรียกว่า ไฮยารูลอนิก เอซิด ( Hyaluronic Acid / HA Filler ) เข้าไปที่บริเวณหน้าผาก ในชั้นของเยื่อหุ้มกระดูก เพื่อปรับแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ของหน้าผาก เช่น ริ้วรอย รอยบุ๋ม ร่องลึก หน้าผากแคบ โหนกนูนไม่เท่ากัน เป็นต้น การฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้จึงช่วยทำให้หน้าผากดูโดดเด่นเป็นสง่า รับกับใบหน้า ดูนูนและได้รูปทรงอย่างเป็นธรรมชาติ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” link=”#section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์หน้าผากช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยในเรื่องของการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน มีมิติมากยิ่งขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าผากแบน ยุบและเป็นแอ่ง เสริมให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

    • ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแบน เกิดจากโครงสร้างของกระดูกที่ไม่มีความโค้งมน หรือการยุบตัวของกระดูก ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ และขาดความสมดุลของใบหน้า
    • ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากแคบ เมื่ออายุมากขึ้น หน้าผากของเราก็จะเล็กลงเพราะกระดูกกะโหลกและชั้นผิวนั้นจะบางลงเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งบางคนเมื่อผิวบางก็จะเห็นริ้วรอยที่เป็นเส้นๆบนหน้าผากชัดเจนมากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วนตามธรรมชาติ
    • ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากยุบ เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันและกระดูกบริเวณหน้าผากหายไป จะส่งผลให้หน้าผากยุบลงกลายเป็นแอ่งเหนือคิ้ว ทำให้โหนกคิ้วเด่น ดูแก่กว่าวัย ซึ่งถ้าผู้หญิงมีหน้าผากและโหนกคิ้วที่เหมือนผู้ชาย จะทำให้ใบหน้าโดยรวมดูไม่อ่อนหวาน
    • ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอยย่นบริเวณหน้าผาก เป็นริ้วรอยบนใบหน้าที่ปรากฎให้เห็นอย่างเด่นชัด แม้ไม่ได้ขยับเขยื้อนใบหน้าก็ยังสามารถมองเห็นริ้วรอย รอยย่นบริเวณหน้าผาก สาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้กระบวนการการทำงานของเซลล์เริ่มช้าลง และเสื่อมลงตามวัย รวมไปถึงโครงสร้างของผิวเริ่มอ่อนแอ นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิต ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก รอยย่นบนหน้าผาก ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นจุดที่เห็นเด่นชัดที่สุดบนใบหน้า

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5870″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”เหมาะกับใคร” link=”#section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากยุบ มีรอยบุ๋มเป็นแอ่ง หน้าผากแคบไม่เข้ากับสัดส่วนอื่นบนใบหน้า
    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบนไม่มีมิติ ใบหน้าดูมีอายุ
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนของหน้าผากที่สมส่วนอยู่แล้ว แต่ต้องการให้ดูมีมิติสวยงามมากยิ่งขึ้น
    • ผู้ที่มีความเชื่อและต้องการจะเสริมโหงวเฮ้ง โดยไม่ต้องใช้วิธีผ่าตัดศัลยกรรม

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”อันตรายไหม” link=”#section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากไม่เป็นอันตรายแต่ต้องอาศัยการเตรียมตัวและความชำนาญของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณหน้าผากจะมีความเสี่ยงและอันตรายมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นๆ เนื่องจากตำแหน่งนี้เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดเชื่อมโยงไปยังจุดสำคัญอยู่มาก จึงจำเป็นต้องเลือกฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐาน จะต้องเป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีตกค้าง เลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการฉีด  ฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากจะได้ใช้เทคนิคที่เฉพาะตัวและถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดหลังจากการฉีด รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ข้อดี ข้อเสีย” link=”#section5″ bullet=”false”]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″ padding=”0px 0px 23px 0px” bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.215)” bg_radius=”25″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อดีของการทำฟิลเลอร์หน้าผาก”]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    • หลังฉีดหน้าผากจะคงที่ เห็นรูปทรงชัดเจน ไม่ยุบลง
      สวยเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา
    • สามารถปรับแก้ไขและเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด
    • ไม่เสียเวลาพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ
    • ใช้เวลาน้อย เห็นผลได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด
    • ฟิลเลอร์สามารถสลายได้เอง 100% หากไม่ต้องการฉีดเพิ่มหน้าผากก็จะกลับไปเป็นรูปเดิม
    • หากเกิดข้อผิดพลาดจากการฉีดฟิลเลอร์ เช่น เป็นคลื่น หรือ เติมมากเกินไป สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.215)” bg_radius=”25″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของการทำฟิลเลอร์หน้าผาก”]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถสลายไปเองได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากสาร ไฮยารูลอนิก เอซิดที่ฉีดเข้าไป จึงจะมีฤทธิ์การคงอยู่ที่ไม่ถาวร
    • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจำนวนมากถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
    • ต้องฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะต้องฉีดเข้าไปที่ชั้นเยื้อหุ้มกระดูก ดังนั้นแพทย์จะต้องมีการใช้เทคนิคที่ถูกต้องและแม่นยำ เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการฉีดที่จะส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจึงควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดำเนินการจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”บวมกี่วัน” link=”#section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากบวมกี่วัน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ในบางรายอาจมีอาการบวมตึง มีรอยแดงเล็กๆจากเข็ม ประมาณ 1 – 2 วัน และจะหายไปเองประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากโดยปกติแล้วจะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที หน้าผากจะดูโค้งนูนได้รูปขึ้น บริเวณที่แบน หรือบุ๋มก็จะถูกเติมเต็มอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าจะได้สัดส่วนและดูมีมิติขึ้นทันที หากดูผลลัพธ์ที่ได้แล้วยังไม่พอใจ คนไข้สามารถเข้าไปให้แพทย์เติมได้ทันที ควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นรักษาระดับความสมดุลของน้ำและน้ำมันในชั้นผิว ป้องกันปัญหาผิวแก่กว่าวัยและช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”อยู่ได้นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

    [title text=”ฟิลเลอร์หน้าผากอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิคเอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติและในร่างกายมีเอนไซม์ที่สามารถสลายออกเองได้ ระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด แต่โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ยกเว้นฟิลเลอร์บางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น เช่นปีครึ่งถึงสองปีได้ ซึ่งขึ้นกับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • Juvederm Volbella เป็นเนื้อเจลที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมากที่สุด  เรียบเนียนเหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก
    • Juvederm Voluma เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะแข็งและฟูระดับปานกลาง มีโมเลกุลใหญ่ มีความหนาแน่นและคงตัวได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดเติมบริเวณหน้าผาก เมื่อฉีดเข้าไปจะทำให้ผิวเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ
    • Restylane Vital เป็นเนื้อเจลที่มีความชุ่มชื้น แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกได้เป็นอย่างดีเหมาะจะเติมเต็มบริเวณหน้าผาก เพื่อเพิ่มความฉ่ำวาวของผิว เหมาะสำหรับฉีดหน้าผาก
    • Restylane Volyme เป็นเนื้อเจลออกแบบมาเติมชั้นผิว บริเวณใบหน้าอิ่มฟู เพื่อให้ดูอ่อนเยาว์ เหมาะที่จะฉีดบริเวณขมับ หน้าผากได้ดี ไม่เป็นคลื่น กระจายตัวได้ดีมาก
    • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึกบริเวณหน้าผาก

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ย้อปฏิบัติ” link=”#section9″ bullet=”false”]

    [section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

    [row h_align=”center”]

    [col span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

    ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

    คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้

    [button text=”คลิกที่นี่” style=”shade” size=”large” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก สามารถปรับโครงสร้างใบหน้าได้อย่างง่าย โดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม อีกทั้งยังสามารถปรับรูปทรงให้ได้ตามแบบที่คนไข้ต้องการ เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการมีหน้าผากโค้งนูนได้รูป แต่ไม่อยากเจ็บตัวหรือพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากควรทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเลือกใช้คลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

  • ฟิลเลอร์ขมับ

    ฟิลเลอร์ขมับ

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [section]

    [ux_image id=”5976″ image_size=”original”]

    [/section]
    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ขมับ” tag_name=”h1″]

             “ขมับ” อีกหนึ่งบริเวณที่สำคัญที่มีผลกับการมีใบหน้าที่ได้รูป เพราะเนื่องจากขมับมีความลึกจะส่งผลให้โหนกแก้มดูชัด ใบหน้าดูแข็งจนเกินไป นอกจากนั้นหลายคนยังนิยมฉีดฟิลเลอร์ขมับเพื่อปรับโหงวเฮ้งของใบหน้า เนื่องจากเชื่อว่าการมีโหงวเฮ้งใบหน้าที่ดีจะส่งเสริมให้ธุรกิจ กิจการ หน้าที่การงานที่ทำเจริญรุ่งเรืองไปในทางที่ดี ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นทางเลือกในการนำมาใช้เติมเต็มบริเวณขมับ
    ในบทความนี้ 44Clinic จึงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ในคนไข้ได้ทำการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ขมับ

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [section]

    [row_inner v_align=”middle” h_align=”center”]

    [col_inner span=”3″ span__sm=”6″ align=”center”]

    [ux_image id=”5534″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”3″ span__sm=”6″ align=”center”]

    [ux_image id=”5537″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/44clinic” target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”3″ span__sm=”6″ align=”center”]

    [ux_image id=”5536″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”Tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”3″ span__sm=”6″]

    [ux_image id=”5535″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.instagram.com/44clinic/” target=”_blank”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/section]
    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ขมับช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” link=”#section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ขมับช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับเป็นการแก้ไขปัญหาใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน ดูโทรม โหงวเฮ้งบนใบหน้าไม่ดีเนื่องจากการมีร่องขมับที่ลึก ดังนั้นการเติมเต็มฟิลเลอร์ หรือ สารประเภท HA (Hyarulonic Acid)  จึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด ในคนไข้ที่มีบริเวณช่วงโหนกแก้มสูง หรือชัด การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยเติมเต็มให้ขมับดูเต็ม ทำให้ช่วงบริเวณโหนกแก้มนั้นดูเด่นชัดน้อยลง ทำให้ใบหน้าดูหวานและได้รูปมากยิ่งขึ้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5867″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ขมับเหมาะกับใคร” link=”#section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ขมับเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    • เหมาะสำหรับผู้ที่มีขมับลึก โหนกแก้มเด่นชัด เมื่อฉีดฟิลเลอร์ขมับแล้วจะทำให้ใบหน้าได้รูปมากขึ้น
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ทำการเสริมหน้าผากมา การเติมฟิลเลอร์ขมับเข้าไปจะส่งผลให้ใบหน้ามีเค้าโครงที่สมส่วนมากขึ้น
    • เหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายเพื่อให้หุ่นกระชับ แต่ในขณะเดียวกันใบหน้ากลับซูบผอมทำให้ดูโทรม การฉีดฟิลเลอร์ขมับจึงเป็นการเติมเต็มให้ใบหน้าดูอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”อันตรายไหม” link=”#section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ขมับอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับ เป็นอีกหนึ่งจุดที่จะต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีความชำนาญให้การฉีดกระทำการเท่านั้น เนื่องจากเป็นจุดที่มีความอันตรายมาก เพราะเป็นบริเวณที่เส้นเลือดเชื่อมกับระบบประสาทดวงตา แต่หากแพทย์ที่ทำการรักษามีความชำนาญใช้เทคนิคที่ถูกต้องและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ปลอดภัยได้มาตรฐาน ก็ไม่ทำให้เกิดอันตรายแน่นอน

    [/col]

    [/row]
    [ux_image id=”5868″ image_size=”original”]

    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.215)” bg_radius=”25″]

    [scroll_to title=”ข้อดี” link=”#section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ” tag_name=”h2″]

    [row_inner width=”full-width” v_align=”middle” h_align=”center”]

    [col_inner span__sm=”12″ align=”left”]

    [ux_text text_color=”rgb(0,0,0)”]

    การมีขมับที่มีร่องยุบ เป็นแอ่ง และมีโหนกแก้มดูเด่นชัด ทำให้ใบหน้าดูเป็นทรงสี่เหลี่ยม ไม่เรียวกระชับ ดูแข็ง และแก่กว่าวัย ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มขมับจะเป็นปรับรูปหน้าให้ดูมีสัดส่วน ลดความเด่นของโหนกแก้มลง ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวกระชับ อ่อนเยาว์ได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้นเป็นเวลานาน

    [/ux_text]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อเสีย” link=”#section5″ bullet=”false”]

    [row width=”custom” v_align=”middle” h_align=”center”]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.215)” bg_radius=”25″]

    [title style=”bold” text=”ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ขมับ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ divider=”true”]

    [ux_text text_color=”rgb(0,0,0)”]

    บริเวณขมับเป็นจุดรวมเส้นประสาท ดังนั้นหลังการฉีดฟิลเลอร์ขมับอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีอาการปวดศีรษะเล็กน้อย โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่อาการดังกล่าวก็จะสามารถหายไปได้เองภายในเวลา 1 – 2 วัน นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ขมับอาจมีข้อเสีย หากดำเนินการโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เพราะแพทย์อาจใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องในการฉีดซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดพลาด และอันตรายเนื่องจากบริเวณขมับมีเส้นประสาทมากมายรวมอยู่ หรืออาจส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจึงควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดำเนินการจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด ซึ่ง 44Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกเคสอย่างใกล้ชิด คนไข้จึงมั่นใจได้เลยว่าเลือกฉีดฟิลเลอร์กับเราจะไม่ผิดหวังและไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

    [/ux_text]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [section]

    [ux_image id=”5605″ image_size=”original”]

    [/section]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ขมับบวมกี่วัน” link=”#section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ขมับบวมกี่วัน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    หลังฉีดฟิลเลอร์บริเวณขมับในบางรายอาจมีอาการบวมตึง มีรอยแดงเล็กๆจากเข็ม ประมาณ 1 – 2 วัน และจะหายไปเองประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ การฉีดฟิลเลอร์ที่ขมับโดยปกติแล้วฟิลเลอร์จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที บริเวณขมับที่เป็นร่องหรือเป็นหลุม จะดูตื้นขึ้นและใบหน้าจะดูมีสัดส่วน เรียวสวยขึ้น แต่จะเห็นผล 100% หลังฉีดประมาณ 4 – 5 วัน

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”อยู่ได้นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ขมับอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค เอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และในร่างกายมีเอนไซม์ที่สามารถสลายออกเองได้ โดยทั่วไปแล้วสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid จะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ซึ่งระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด ยกเว้นฟิลเลอร์บางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น เช่น ปีครึ่งถึงสองปีได้ ซึ่งขึ้นกับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ หรือระยะเวลาอาจแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล แต่สิ่งที่สำคัญคือคนไข้ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และดื่มน้ำให้มากๆเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำและน้ำมันในชั้นผิวเพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงอยู่ได้นานขึ้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [section]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5962″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/section]
    [scroll_to title=”ยี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_text text_color=”rgb(0,0,0)”]

    สำหรับการเติมเต็มขมับ ควรเลือกฟิลเลอร์ชนิดที่เหมาะสม และคุณภาพได้มาตรฐานที่สุด เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี 44Clinic จึงได้คัดสรรฟิลเลอร์ที่เป็นที่นิยมและดีที่สุดสำหรับการฉีดขมับ มาไว้เพื่อเป็นทางเลือกในการประกอบการตัดสินใจ

    • Juvederm Voluma ฟิลเลอร์มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นและเรียบเนียน จึงเหมาะกับการเติมขมับ
    • Restylane Lyft เป็นฟิลเลอร์ในกลุ่ม NASHA เทคโนโลยี เป็นรุ่นที่มีแรงในการยกกระชับมากที่สุด นิยมนำมาแก้ไขในจุดที่ต้องการแรงยกสูง เช่น บริเวณขมับ หรือตามตำแหน่งเส้นเอ็นต่างๆบนใบหน้า
    • Neuramis Deep ฟิลเลอร์ตัวนี้เนื้อสัมผัสค่อนข้างเฟิร์ม เติมวอลลุ่มได้ดี ฟิลเลอร์ตัวนี้ไม่ฟูมาก ราคาย่อมเยาว์
    • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึกบริเวณขมับ

    [/ux_text]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [scroll_to title=”ข้อปฏิบัติ” link=”#section9″ bullet=”false”]

    [section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

    [row h_align=”center”]

    [col span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

    ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

    คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้

    [button text=”คลิกที่นี่” style=”shade” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ขมับ นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วน โหนกแก้มชัด ยังสามารถช่วยปรับและเสริมโหงวเฮ้งให้กับแต่ละบุคคลได้อีกด้วย แต่เนื่องจากบริเวณขมับเป็นส่วนที่ค่อนข้างจะเสี่ยงอันตรายสำหรับการทำหัตถการ ดังนั้นคนไข้จึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานพร้อมทีมแพทย์มืออาชีพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและปลอดภัยแน่นอน 100%

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]
    [row_inner]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner_1]

    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col_inner]

    [/row_inner_1]

    [/col]

    [/row_inner]

    [/row]

  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5865″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [title style=”bold-center” text=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร” tag_name=”h1″]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    ริ้วรอยบริเวณร่องแก้ม คือ รอยพับลึก จากด้านใดด้านหนึ่งของจมูกไปทางมุมปาก เรียกอีกอย่างว่า “ร่องข้างแก้ม” เป็นจุดที่บ่งบอกถึงอายุได้อย่างชัดเจน มักจะเห็นได้ชัดในช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย ซึ่งทางออกของปัญหาคือการเติมฟิลเลอร์ในบริเวณร่องแก้ม เพื่อเพิ่มปริมาณของผิวให้ดูเรียบเนียน เต่งตึงไร้ริ้วรอย และทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูสดใส

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”bold-center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [section]

    [row]

    [col span=”3″ span__sm=”6″]

    [ux_image id=”5534″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”3″ span__sm=”6″]

    [ux_image id=”5537″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/44clinic” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”3″ span__sm=”6″]

    [ux_image id=”5536″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”Tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”3″ span__sm=”6″]

    [ux_image id=”5535″ image_size=”original” width=”75″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.instagram.com/44clinic/” target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ปัญหาร่องแก้มเกิดจากอะไร” link=”#section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ปัญหาร่องแก้มเกิดจากอะไร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    สาเหตุของการเกิดร่องแก้ม อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

    • ผิวหนังที่หย่อนคล้อยและการสลายตัวของไขมันบนใบหน้า พอมีการหย่อนตัวลงจะทำให้มองเห็นเป็นก้อนๆ เหนือเส้นร่องแก้ม
    • เกิดจากการยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตาและร่องแก้ม ทำให้ก้อนที่อยู่เหนือเส้นร่องแก้มดูชัด ดูลึกขึ้น มักพบในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
    • การยิ้มบ่อยๆก็ถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดร่องแก้ม เพราะเวลายิ้มกล้ามเนื้อจะดึงร่องแก้มให้แข็งแรงเกินไป
    • เมื่อมีอายุเริ่มเข้าสู่ช่วง 30 ขึ้นไป การสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้ผิวเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ไม่กระชับ เริ่มมีริ้วรอย เนื้อและไขมันบริเวณใต้ตามีความหย่อนคล้อยลงมาเหนือร่องแก้ม ส่งผลให้ร่องแก้มลึกขึ้น ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส ดูมีอายุมากขึ้น
    • ส่วนปัญหาที่พบจากคนที่อายุยังน้อย คือร่องแก้มเกิดขึ้นเนื่องจาก “การจัดฟัน” เพราะลักษณะกระดูกโครงหน้าบริเวณรอบปากจะเกิดความเปลี่ยนแปลง ลักษณะของกระดูกจะงุ้มเข้า ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาร่องแก้มได้ถึงแม้จะอายุไม่เยอะ แต่สามารถพบได้ในบางคนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของแต่ละคน

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” link=”#section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึกได้อย่างปลอดภัยและตรงจุด โดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรม สามารถช่วยเติมเต็มร่องแก้มได้อย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งหากใช้เทคนิคการไล่ฉีดจากมุมปากยังสามารถยกมุมปากให้สูงขึ้น ช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มฟู คืนความอ่อนเยาว์ให้แก่ใบหน้า เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนทันทีหลังจากที่ฉีดเสร็จ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5866″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร” link=”#section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    • ผู้ที่ร่องแก้มลึก ที่มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
    • ผู้ที่รูปร่างผอม ซึ่งจะมีริ้วรอยบริเวณร่องแก้มที่เด่นชัด
    • ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ ร่องแก้มชัด ทำให้ดูแก่กว่าวัย

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม” link=”#section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ไม่เป็นอันตรายต้องอาศัยการเตรียมตัวก่อนฉีดที่ดี แล้วยังต้องเลือกฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐาน จะต้องเป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง เลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เรื่องฟิลเลอร์และสามารถบอกถึงปัญหาบนใบหน้าคนไข้แต่ละบุคคลได้ชัดเจน สามารถช่วยแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างดี รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มตามคำแนะนำแพทย์จะทำให้การเติมฟิลเลอร์ร่องแก้มออกมา สวยอย่างเป็นธรรมชาติ

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [section]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ข้อดี-ข้อเสีย” link=”#section5″ bullet=”false”]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″ padding=”0px 0px 31px 0px” bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.221)” bg_radius=”50″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อดีของฟิลเลอร์ร่องแก้ม”]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    • การเติมหรือฉีดฟิลเลอร์ Filler ที่ร่องแก้มเป็นวิธีแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด เห็นผลชัดเจนกว่าการร้อยไหม
    • เห็นผลทันทีหลังฉีด และเห็นผล 100% หลังฉีดประมาณ 4 – 5 วัน
    • หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่เห็นรอยเขียวช้ำ ไม่มีอาการบวม ช้ำ

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.221)” bg_radius=”50″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของฟิลเลอร์ร่องแก้ม”]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มอาจมีข้อเสีย หากดำเนินการโดยแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เพราะแพทย์อาจใช้เทคนิคที่ไม่ถูกต้องในการฉีดซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดพลาด ส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาจึงควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดำเนินการจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด ซึ่ง 44Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลทุกเคสอย่างใกล้ชิด คนไข้จึงมั่นใจได้เลยว่าเลือกฉีดฟิลเลอร์กับเราจะไม่ผิดหวังและไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มบวมกี่วัน” link=”#section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มบวมกี่วัน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ในบางรายอาจมีอาการบวมตึง มีรอยแดงเล็กๆ จากเข็ม ประมาณ 1 – 2 วัน และจะหายไปเองประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ การฉีดฟิลเลอร์ที่ร่องแก้มโดยปกติแล้วฟิลเลอร์จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ริ้วรอยร่องลึกจะตื้นขึ้น ผิวจะอวบอิ่มและเต่งตึงขึ้น จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน 100% หลังฉีดประมาณ 4 – 5 วัน โดยทั่วไปแล้วสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid จะอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี แต่หากอยู่ในสภาวะที่ต้องเจอความร้อนสูงอย่างการเข้าซาวน่าเป็นประจำ จะทำให้อายุของสารเติมเต็มน้อย หากผลลัพธ์ที่ได้แล้วยังไม่พอใจ คนไข้สามารถเข้าไปให้แพทย์เติมได้ทันที แนะนำควรจะดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นรักษาระดับความสมดุลของน้ำและน้ำมันในชั้นผิว ป้องกันปัญหาผิวแก่กว่าวัยและช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มอยู่ได้นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ร่องแก้มอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค เอซิด ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ และในร่างกายมีเอนไซม์ที่สามารถสลายออกเองได้ ระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด แต่โดยทั่วไปฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ยกเว้นฟิลเลอร์บางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น เช่น ปีครึ่งถึงสองปีได้ ซึ่งขึ้นกับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5605″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มยี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    สำหรับการเติมเต็มร่องแก้ม ตัวที่ให้ผลการรักษาที่ดี กรณีที่ร่องแก้มตื้นๆ หรือร่องแก้มที่เกิดจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการยิ้มที่แข็งแรง หรือจากกรณีที่มีความหย่อนคล้อย ได้แก่

    • Juvederm Ultra Plus เนื้อฟิลเลอร์ตัวนี้จะมีความฟู เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยเพราะมีค่าการอุ้มน้ำสูง เนื้อเนียนไม่เป็นก้อน และโดยภาพรวมจะใช้ปริมาณ cc น้อยกว่าตัวอื่นเล็กน้อย
    • Juvederm Volift ฟิลเลอร์ตัวนี้ใช้เทคโนโลยีที่ใหม่กว่าคือ Vycross ให้ความรู้สึกเนียนนุ่ม ไม่เป็นก้อนเช่นเดียวกับ Ultra Plus แต่ตัวนี้จะฟูน้อยกว่า แต่ช่วยยกร่องแก้มให้เต็มขึ้น
    • Restylane Refyne ฟิลเลอร์ตัวนี้ใช้เทคโนโลยี OBT ให้เนื้อสัมผัสนุ่มเนียน แต่ไม่ฟูมากนัก ตัวนี้สามารถใช้ได้คล้ายๆ Volift แต่อาจจะช่วยยกได้น้อยกว่าจึงเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีร่องแก้มตื้นๆ
    • Restylane Defyne ฟิลเลอร์ตัวนี้ใช้เทคโนโลยี OBT เนื้อสัมผัสเฟิร์มแต่สมูธ ช่วยยกผิวได้ดี เหมาะกับคนไข้ที่มีร่องแก้มลึกปานกลาง หรือผิวค่อนข้างบาง
    • Restylane Lyft Lidocaine ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็น NASHA Gel เนื้อสัมผัสเฟิร์ม ยกผิวได้ดีที่สุด เหมาะกับคนไข้ที่มีร่องแก้มลึก
    • Neuramis Deep ฟิลเลอร์ตัวนี้เนื้อสัมผัสค่อนข้างเฟิร์ม เติมวอลลุ่มได้ดี ราคาย่อมเยาว์
    • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึกบริเวณร่องแก้มและร่องน้ำหมาก

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์” link=”#section9″ bullet=”false”]

    [section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

    [row h_align=”center”]

    [col span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

    ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

    คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้

    [button text=”คลิกที่นี่” style=”shade” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับการมีร่องแก้มที่ลึก สาเหตุของการมีใบหน้าที่ดูแก่กว่าวัย การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มนั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัย รวดเร็วและเห็นผลชัดเจนที่สุดโดยที่คนไข้จะไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นหรือเจ็บตัวจากการผ่าตัดศัลยกรรมใดๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหานี้ที่สุด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/col]

    [/row]
    [section]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

  • ฟิลเลอร์คาง

    ฟิลเลอร์คาง

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [section]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5956″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/section]
    [title style=”bold-center” text=”ฟิลเลอร์คางคืออะไร” tag_name=”h1″]

    ปัจจุบันการปรับโครงสร้างของใบหน้าให้มีรูปหน้าสมส่วน ใบหน้าเรียวเป็นวีเชฟ ดูเข้ารูป คางจึงเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญของใบหน้า คางที่ดีควรมีลักษณะที่ได้รูปทรง ต้องรับกับหน้าผาก จมูกและกรอบหน้า ซึ่งอัตราส่วนแต่ละส่วนของใบหน้าต้องมีอัตราส่วนที่เท่ากันก็จะทำให้ใบหน้าดูสมส่วน ได้รูปหน้าที่สวยงาม ดังนั้นการออกแบบคางจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของหน้าในทุกส่วนให้มีความเท่ากัน

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

              ฟิลเลอร์คาง คือ การเติมสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด ( Hyaluronic Acid ) เข้าไปบริเวณคางเพื่อปรับแก้ไขปัญหาคางสั้น คางตัด คางเบี้ยว ใบหน้าดูกลม การฉีดฟิลเลอร์คางเข้าไปจึงทำให้ใบหน้าสวย เป็นธรรมชาติและได้สัดส่วนมากขึ้น ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะได้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้การผ่าตัดเสริมคาง เป็นหัตถการที่สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น หลังฉีดสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คางสลายหมดคือ 1 – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์) สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง สามารถเติมเพิ่มได้เรื่อยๆ โดยไม่ทำให้คางผิดรูป แต่ต้องเลือกฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เท่านั้น

    [gap height=”80px”]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”bold-center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner_1]
    [col_inner_1 span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [row_inner]

    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์คางช่วยแก้ไขอะไร” link=”#section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์คางช่วยแก้ไขเรื่องอะไร” tag_name=”h2″]

    1. ปัญหาคางสั้น เกิดจากโครงสร้างกระดูกกรามหรือขากรรไกรที่สั้น หรืออาจจะถูกถ่ายทอดมาจากพันธุกรรม ส่งผลให้ลักษณะปลายคางสั้นมากจนมองไม่เห็นรูปคาง ดูไม่มีมิติ ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ฟิลเลอร์คางจึงเข้าไปแก้ไขทำให้ได้รูปคางที่เรียวยาว ดูสวย มีมิติ
    2. ปัญหาคางตัด จะมีลักษณะบริเวณปลายคางที่จะตัดตรง ไม่มีปลายคาง มีองศาที่ระนาบไปกับพื้น ทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่เรียวยาว ดูหน้าเหลี่ยม โดยคางลักษณะนี้จะส่งผลให้ใบหน้าดูบึ้งตึง ดูแมนเหมือนผู้ชาย ฟิลเลอร์คางจึงเข้าไปแก้ไขทำให้ใบหน้าดูหวานขึ้น
    3. ปัญหาคางบุ๋ม เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกหรือกล้ามเนื้อบริเวณคาง ที่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของปลายคางยุบลงไป ทำให้เกิดเป็นร่องบุ๋มตรงบริเวณปลายคาง บางคนมีลักษณะบุ๋มเล็กน้อย บางคนเห็นชัดเจนแตกต่างกันออกไป ฟิลเลอร์คางจึงเข้าไปแก้ไขทำให้บริเวณที่มีลักษณะบุ๋มดูตื้นขึ้น และเรียบเนียน
    4. ปัญหาคางยื่น เกิดจากโครงสร้างกระดูกที่มีความยาวผิดปกติ มีลักษณะคางยาวไปด้านหน้า สังเกตุได้จากด้านข้าง ส่งผลให้รูปคางยาวไม่ได้สัดส่วนของใบหน้าที่เหมาะสม ฟิลเลอร์คางจึงเข้าไปแก้ไขทำให้ใบหน้าได้สัดส่วนที่ดีขึ้น แต่ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ด้วยว่า คนไข้ควรที่จะได้รับการรักษาแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5863″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร” link=”#section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์คางเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด ทำให้ใบหน้าดูกลม
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางไม่เท่ากัน คางผิดรูป ฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็ม ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ได้สัดส่วน ไม่ต้องพักฟื้น
    • เหมาะกับผู้ที่อยากมีรูปหน้าที่เรียวยาวขึ้นแต่ไม่อยากศัลยกรรมผ่าตัดเสริมคาง เพราะกลัวเจ็บหรือไม่มีเวลาพักฟื้น
    • เหมาะกับผู้ที่อยากจะเสริมคางแต่ไม่แน่ใจว่า จะเหมาะกับใบหน้าไหม การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยให้คนไข้ประเมินทรงคางก่อนทำการเสริมจริงได้

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับใคร” link=”#section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้รุนแรง มีปัญหาเลือดออกง่ายหรือแข็งตัวยากกว่าปกติ
    • ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังทานยาที่มีผลละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน ฯลฯ
    • ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์คางอันตรายไหม” link=”#section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์คางอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    ฟิลเลอร์คางไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอนถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานฟิลเลอร์แท้และฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย 100% ผลข้างเคียงแทบไม่เกิดขึ้นเลย หรือถ้าจะมีก็อาจจะเล็กน้อย เช่น มีรอยรูเล็กๆ ที่เข็มฉีดลงไปบริเวณคาง แต่ถ้าหากรับบริการจากแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ อาจทำให้คางมีสัดส่วนที่ผิดรูป และมีโอกาสที่จะทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ ฟิลเลอร์คางเป็นก้อน เนื่องจากฉีดเข้าไปผิดบริเวณหรืออาจจะใช้ฟิลเลอร์มากเกินไป ทำให้บริเวณที่ฉีดจับตัวกันเป็นก้อน จนไม่สามารถสลายได้ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์คางควรที่จะฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5864″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [section]

    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.221)” bg_radius=”45″]

    [scroll_to title=”ข้อดีข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง” link=”#section5″ bullet=”false”]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง”]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    1. เป็นหัตถการที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่เสี่ยงต่อการเป็นแผลนูน หลังทำเห็นผลทันที
    2. ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้นเพราะหลังฉีดฟิลเลอร์สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
    3. ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นในการปรับรูปคาง หากสั้นเกินไปก็สามารถเติมเพิ่มได้ หากยาวเกินไปก็สามารถสลายบางส่วนออกได้ทันที
    4. สารเติมเต็มที่นำมาใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คาง เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับการรับรองทางการแพทย์ว่าสามารถใช้กับคนทั่วไปได้ อีกทั้งในการฉีดฟิลเลอร์ จะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดเป็นผู้ทำเท่านั้น จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ อย่างแน่นอน
    5. ค่าใช้จ่ายไม่สูง ตอบโจทย์สำหรับคนที่มีงบจำกัด

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.221)” bg_radius=”45″]

    [title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์คาง”]

    1. ระยะเวลาที่ฟิลเลอร์คางสามารถอยู่ได้นานที่สุดเพียง 1 – 2 ปี ต่อการฉีด 1 ครั้ง
    2. หากฉีดฟิลเลอร์คางในเนื้อคางชั้นตื้นเกินไป ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะทำให้เนื้อคางผิดรูปได้

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [section]

    [ux_image id=”5605″ image_size=”original”]

    [/section]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์คางกี่วันเห็นผล” link=”#section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์คางกี่วันเห็นผล” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์คางไปแล้ว สามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลังทำได้ทันที 80 % ส่วนที่เหลืออาจจะต้องให้เวลาฟิลเลอร์เซ็ตตัวประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากฉีด และจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ 1 เดือน

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์คางอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    เมื่อฉีดฟิลเลอร์คางเข้าไปแล้วอาจอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน เพราะคางเป็นบริเวณที่ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบ่อยเหมือนกับบริเวณหน้าผากหรือบริเวณใต้ตา รวมไปถึงการฟิลเลอร์คางต้องใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง และถ้าหากดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คางให้ดี อาจทำให้ฟิลเลอร์คางอยู่ได้ยาวนานมากขึ้น

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์คางยี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์คางต้องใช้ฟิลเลอร์แท้ที่มีความคงตัวสูง เนื้อแน่น ไม่ฟู เพื่อให้ปั้นเป็นทรงได้สวยเป็นธรรมชาติ โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่นิยมและมีความปลอดภัย อยู่ได้นานประมาณ 12 – 18 เดือน จะแนะนำเป็น 4 ยี่ห้อนี้ ซึ่งราคานั้นจะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติของฟิลเลอร์นั้นๆ

    • Juvederm Voluma เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะแข็งและฟูระดับปานกลาง มีโมเลกุลใหญ่ มีความหนาแน่นและคงตัวได้ดี เหมาะสำหรับการฉีดเติมบริเวณคาง เมื่อฉีดเข้าไปจะทำให้ผิวเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ
    • Restylane Lyft เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะแน่น แข็ง มีความคงตัวสูง หลังจากฉีดฟิลเลอร์เข้าไปเนื้อจะไม่ฟูเหมาะสำหรับการฉีดบริเวณคางเพราะจะทำให้คางคงรูปได้เป็นอย่างดี
    • Neuramis Deep ฟิลเลอร์ตัวนี้เนื้อสัมผัสค่อนข้างดี คงตัว คงรูปได้สวย ราคาย่อมเยาว์
    • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึกบริเวณคาง

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [scroll_to title=”ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์” link=”#section9″ bullet=”false”]

    [section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

    [row h_align=”center”]

    [col span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

    ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

    คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้

    [button text=”คลิกที่นี่” style=”shade” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นตัวช่วยสำหรับคนไข้ที่มีปัญหา คางสั้น คางบุ๋ม คางตัด หรือใบหน้าที่ไม่ได้สัดส่วนดูไม่มีมิติ การฉีดฟิลเลอร์คางสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]

  • ฟิลเลอร์ปาก

    ฟิลเลอร์ปาก

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5859″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ปากคืออะไร” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

               การฉีดฟิลเลอร์ปากถือว่าเป็นเทรนด์มาแรงที่สุดในตอนนี้เหล่าดาราและสาวๆเน็ตไอดอล ต้องมีริมฝีปากที่อวบอิ่ม ดูเป็นทรงกระจับชัด มุมปากยกขึ้นเหมือนเป็นคนอมยิ้มตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆ ถ้าหากมีริมฝีปากที่อวบอิ่ม ไม่มีรอยแตกแห้ง ปากของเราก็จะดูสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่จำเป็นต้องพักฟื้นนาน ฉีดเสร็จสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ตามปกติ

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการใช้สารเติมเต็มประเภท ไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ “HA” เพื่อช่วยเติมเต็มให้ริมฝีปากกลับมาดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ที่เป็น HA นั้น จะสามารถสลายเองได้หมด 100% เมื่อเวลาผ่านไป ไม่เป็นอันตราย ไม่มีสารตกค้าง นอกจากนั้นยังสามารถปรับมิติ และรูปทรงปากให้เป็นรูปกระจับ สำหรับคนที่ต้องการปรับโหงวเฮ้ง หรือการฉีดให้อวบอิ่มสไตล์สายฝรั่ง ก็สามารถทำได้

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light” text_depth=”5″]

    [title style=”bold-center” text=”สารบัญ”]

    [row_inner]

    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”6″ span__sm=”12″]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col]
    [col span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร” link=”#section1″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ปากเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปากบาง ฟิลเลอร์สามารถทำให้ปากดูอวบอิ่มเป็นทรงได้
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปากคว่ำ ทำให้หน้าดูบึ้ง และดุ แก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ทำให้รูปปากยิ้ม
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปากเบี้ยว ปากไม่เท่ากัน ทำให้คนไข้ไม่มีความมั่นใจการฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถปรับรูปปากให้เท่ากัน เพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ได้
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาปากแห้ง ปากเป็นร่อง แก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากแบบเนื้อนิ่ม เพื่อบำรุงริมฝีปาก
    • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาขอบปากไม่ชัด การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถทำให้ขอบปากคมชัดขึ้น

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม” link=”#section2″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

    การฉีดฟิลเลอร์ปากปลอดภัยเป็นไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน เพราะฟิลเลอร์ที่ใช้จะเป็นสารเติมเต็มที่เรียกว่า ไฮยาลูโรนิก เอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายของเรา สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้าง ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากต้องศึกษาตัวยาว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับมาตรฐานอย.และต้องฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับรูปหน้าโดยตรงเพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงและข้อผิดพลาดต่างๆตามมา

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5860″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ bg_color=”rgba(1, 24, 126, 0.174)” bg_radius=”50″]

    [scroll_to title=”ช้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก” link=”#section3″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก” tag_name=”h2″]

    1. ฟิลเลอร์ปากสามารถปรับเปลี่ยนทรงตามที่คนไข้ต้องการได้ตลอดเวลา เพราะฟิลเลอร์แท้สามารถสลายได้หมด 100% ตามระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละรุ่น หรือถ้าคนไข้ไม่พอใจก็สามารถฉีดยาสลายฟิลเลอร์ได้ ทำให้เปลี่ยนรูปทรงปากได้ตามเทรนด์ตลอดเวลา
    2. ฟิลเลอร์ปากสามารถปรับเปลี่ยนปากที่บางให้หนาและเป็นทรงขึ้นได้
    3. ฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยบำรุงริมฝีปาก ให้อวบอิ่ม ชุ่มชื่นเพราะในฟิลเลอร์มีสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำ หลังฉีดฟิลเลอร์ไปจะทำให้ปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นขึ้น แก้ไขร่องริมฝีปากได้เป็นอย่างดี
    4. หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากจะเห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้นและจะเข้าที่ 100% ภายใน 1 เดือน

    [/col]

    [/row]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก” link=”#section4″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก” tag_name=”h2″]

    [row_inner_1]

    [col_inner_1 span__sm=”12″]

    [row_inner_2]

    [col_inner_2 span__sm=”12″]

    1. งดรับประทานอาหารเสริมหรือตัวยาบางชนิด ที่กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอีและน้ำมันปลา
    2. งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3 – 4 วัน
    3. หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์

    [/col_inner_2]

    [/row_inner_2]

    [/col_inner_1]

    [/row_inner_1]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5861″ image_size=”original”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]
    [scroll_to title=”หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก” link=”#section5″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”หลังการฉีดฟิลเลอร์ปาก” tag_name=”h2″]

    [ux_text line_height=”2.5″]

    1. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือลิปสติกทาริมฝีปากที่มีส่วนผสมของ AHA BHA และ Retinoid เป็นเวลา 2 สัปดาห์
    2. หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้วควรดื่มน้ำประมาณ 3ลิตร/วัน เพราะไฮยารูลอนิก เอซิดเป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมากๆจะทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำการเติมเต็มเข้าไปอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
    3. หลังจากที่แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้วไม่ควรจับ นวด คลึงในบริเวณที่ฉีด เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ผิดรูปอาจจะผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
    4. ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก งดรับประทานอาหารร้อนจัดเพราะอาจจะลดอายุของฟิลเลอร์ได้
    5. งดการอบไอน้ำ อบซาวน่า หรือการทำ RF ในช่วง 2 สัปดาห์หลังจากทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะการโดนความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานๆอาจส่งผลต่อฟิลเลอร์ได้
    6. หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากงดรับประทานอาหารที่อุณหภูมิร้อนจัดโดยตรง

    [/ux_text]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน” link=”#section6″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมกี่วัน” tag_name=”h2″]

    [row_inner]

    [col_inner span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ปากอาจจะมีอาการบวมในช่วง 1 – 2 วันแรก แต่หลังจากนั้นอาการบวมจะค่อยๆยุบลงเรื่อยๆ และเห็นผลชัดเจนในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้วควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้รูปทรงปากที่สวยและอยู่ได้นาน

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

    การฉีดฟิลเลอร์ปากโดยปกติสามารถอยู่ได้นาน 1 – 2 ปีขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ฉีดและพฤติกรรมการดูแลของแต่ละบุคคล หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหนักก็จะคงสภาพได้ยาวนานกว่าฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเบา และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนโดยตรงเพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายไปได้เร็ว

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

    การฉีดฟิลเลอร์ปาก อย่างแรกที่ 44Clinic เลือกใช้คือฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่เราเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์แท้และปลอดภัย โดยแพทย์จะทำการประเมินว่าคนไข้เหมาะกับการใช้แบรนด์ไหนมากที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งในปัจจุบันฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและได้รับความนิยมสูงสุดก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปดังนี้

    • Juvederm Volife เป็นเนื้อนิ่ม เนื้อมีความละเอียดมากกว่า Ultraplus เหมาะสำหรับฉีดปากเพราะจะทำให้ปากดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
    • Juvederm Volite เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะละเอียด เหมาะสำหรับฉีดปากเพราะจะทำให้ปากอวบอิ่มดูเซ็กซี่ ทำให้ปากชุ่มชื้น อุ้มน้ำได้ดี
    • Juvederm Ultra Plus เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะนิ่มและฟูมาก เหมาะสำหรับฉีดปากเพราะจะทำให้ปากอวบอิ่มแบบสายฝรั่ง
    • Juvederm Volbella เป็นเนื้อเจลที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมาก มีความเรียบเนียนเหมาะสำหรับเติมบริเวณปาก ช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ฟู ได้รูปสวย
    • Restylane Vital Light เป็นเนื้อเจลที่มีโมเลกุลบางเบา มีความคงตัว ยืดหยุ่น เนื้อนิ่มละเอียดเหมาะสำหรับฉีดผิวชั้นตื้นหรือริมฝีปากเพราะช่วยฟื้นฟู บำรุง เพิ่มความชุ่มชื้น
    • Restylane Volyme เป็นเนื้อเจลที่มีลักษณะความนิ่มปานกลางและมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์อิ่มฟู เหมาะสำหรับฉีดปากเพราะดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน
    • Neuramis Deep ฟิลเลอร์ตัวนี้เนื้อสัมผัสค่อนข้างเฟิร์ม เติมเพิ่มวอลลุ่มได้ดี ราคาย่อมเยาว์
    • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึกบริเวณริมฝีปาก

    [section]

    [ux_image id=”5605″ image_size=”original” link=”https://44clinic.com/articles/”]

    [/section]

    [/col]

    [/row]
    [scroll_to title=”ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์” link=”#section9″ bullet=”false”]

    [section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

    [row h_align=”center”]

    [col span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

    ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

    คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้

    [button text=”คลิกที่นี่” style=”shade” size=”large” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

    [/col]

    [/row]

    [/section]
    [gap height=”80px”]

    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

    [title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    การฉีดฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยแก้ปัญหาคนไข้ที่มีทรงปากบาง ปากคว่ำ ปากเบี้ยว ปากแห้ง ขอบปากไม่ชัด หรือคนไข้ที่ต้องการปรับรูปทรงปากตามเทรนด์ ทำให้คนไข้เกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณปากจึงเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างตรงจุด โดยให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ตอบโจทย์ให้กับคนไข้อย่างแน่นอน

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

    อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5750″ image_size=”original”]

    [/col]

    [/row]
    [row]

    [col span__sm=”12″]

    [row_inner]

    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”tel:0894394444″ target=”_blank”]

    [/col_inner]
    [col_inner span=”4″ span__sm=”12″]

    [ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

    [/col_inner]

    [/row_inner]

    [/col]

    [/row]