การรักษาด้วยเมโสหน้าใส เป็นการนำตัวยาที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติต่างๆ ที่ให้ประโยชน์ในการนำมารักษาปัญหาผิวหน้า ช่วยฟื้นฟู และบำรุงเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมากระจ่างใส ชุ่มชื้น ขับสารพิษและทำให้ผิวแข็งแรง
          เมโสหน้าใส มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายชนิด และมีเทคนิคในการทำอยู่สองแบบ คือแบบฉีด 16 จุดทั่วใบหน้าและแบบสะกิด ซึ่งแต่ละเทคนิคก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป

ในการทำเมโสหน้าใส แพทย์จะมีการใช้เทคนิคในการฉีดที่สามารถแบ่งออกได้เป็นสองแบบ คือ

1. การทำเมโสหน้าใสแบบสะกิด
   แพทย์จะใช้วิธี Mesotherapy เป็นการสะกิดตัวยาลงบนผิวหนังชั้นบน โดยกระจายยาเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้ากลับมามีสุขภาพดี มีความยืดหยุ่น สว่างและกระจ่างใสขึ้น
2. การทำเมโสหน้าใสแบบฉีดทั่วใบหน้า 16 จุด
   แพทย์จะใช้วิธีการฉีดแบบ Homeothapy เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปที่ผิวหนังชั้นใน ฉีด 16 จุดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง โดยวิธีนี้จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ชัดเจน และออกฤทธิ์ได้นานกว่า เนื่องจากตัวยากระค่อยๆกระจายและไหลเวียนไปบนใบหน้า
3. นอกจากนั้นในบางคลินิกยังมีการใช้วิธี Intradermal ซึ่งเป็นการฉีดแบบตื้นๆ กระจายไปทั่วใบหน้า ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้เต็มที่ และเห็นผลชัดเจน เพียงแต่วิธีนี้จะไม่เหมาะสำหรับบุคคลที่ทนความเจ็บในการฉีดไม่ไหว เนื่องจากจะต้องฉีดบริเวณหลายจุดบนไปหน้า

ประเภทของเมโสหน้าใส สามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทต่าง ๆ ตามแต่ละปัญหาผิว ซึ่งแบ่งออกเป็นปัญหาในเรื่องของการช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ แก้ปัญหาความหมองคล้ำใต้ตา หรือแม้กระทั่งปัญหาฝ้าและกระที่รักษาได้ยาก ดังนั้นก่อนที่คนไข้จะตัดสินใจเลือกฉีดเมโสหน้าใส คนไข้ต้องศึกษารายละเอียดของตัวยาให้ชัดเจนเพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างชัดเจน

          โดยปกติเมโสหน้าใสจะใช้ฉีดบนบริเวณใบหน้าเพื่อใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของคนไข้ แต่เมโสหน้าใสบางยี่ห้อก็ถูกพัฒนามาเพื่อใช้ฉีดเฉพาะจุด เช่น บริเวณใต้ตาที่มีความคล้ำ เมื่อฉีดเข้าไปจะช่วยทำให้บริเวณดังกล่าวดูกระจ่างใสขึ้น ฟื้นบำรุงให้ผิวหน้าดูสดใส บางตัวสามารถรักษาและฆ่าเชื้อสิว ไปจนถึงการทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น นอกจากนั้นยังมีเมโสหน้าใสที่ทำขึ้นเพื่อแก้ปัญหาฝ้ากระ โดยเฉพาะได้อีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ตระกูลเมโสหน้าใส ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยใช้ส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ดังนั้นจึงค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง แต่อันตรายก็อาจจะเกิดขึ้นหากเป็นการฉีดตัวยาเมโสหน้าใสที่ไม่ได้รับมาตรฐาน และดำเนินการฉีดโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ดังนั้นคนไข้จึงควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้ตัวยาที่ได้คุณภาพ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีความปลอดภัย

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน แต่ทั้งนี้ในคนไข้บางรายก็อาจจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เพียงแต่อาการข้างเคียงดังกล่าวนั้นเป็นเพียง การเกิดรอยเข็ม รอยแดง หรือรอยช้ำจุดเล็กๆเท่านั้น ซึ่งอาการเหล่านั้นจะหายไปเองภายใน 1 – 3 วัน ดังนั้นคนไข้จึงไม่ต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

สรุป