ไหม คอลลาเจน (Stemcell)

ไหมคอลลาเจนคืออะไร (Stemcell)

ไหมคอลลาเจนเป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรมที่เหมาะสำหรับยกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย และช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว เป็นหนึ่งในตัวช่วยในการฟื้นฟูและเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวกลับมาสุขภาพดีแลดูอ่อนเยาว์

การทำงานของไหมคอลลาเจน (Stemcell)

ในการทำงานของไหมคอลลาเจน ตัวเส้นไหมจะถูกร้อยเข้าไปในบริเวณที่พบปัญหา หลังจากนั้นเนื้อเยื่อบริเวณนั้นๆ สร้างเส้นเลือดขึ้นมาใหม่และมีการไหลเวียนของเลือดมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนมากขึ้นมาพยุงผิว ทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย มีความกระชับขึ้น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ผิวมีความชุ่มชื้น สุขภาพดีขึ้น เป็นตัวช่วยทำให้ผิวกลับมามีความอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของไหมคอลลาเจน

  • ไหมคอลลาเจนช่วยในการกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวขึ้นมาใหม่
  • ไหมคอลลาเจนช่วยเสริมความแข็งแรง ฟื้นฟูเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ
  • ไหมคอลลาเจนช่วยกระตุ้นการสร้างและชะลอการเสื่อมของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน
  • ไหมคอลลาเจนช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน
  • ไหมคอลลาเจนช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้น
  • ไหมคอลลาเจนช่วยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น

ใครบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหมคอลลาเจน

การร้อยไหมคอลลาเจนเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยหรือผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่ต้องการยกกระชับใบหน้า เนื่องจากอายุที่มากขึ้นทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงและด้วยมลภาวะที่เจอในชีวิตประจำวันก็อาจส่งผลทำลายเส้นใยคอลลาเจน การร้อยไหมคอลลาเจนจึงเป็นอีกวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนบนใบหน้าให้กลับมามีความกระชับเต่งตึงมากขึ้นได้

บริเวณที่เหมาะกับการร้อยไหมคอลลาเจน

  • บริเวณที่ต้องการยกกระชับใบหน้า ลดความหย่อนคล้อยของผิวทำให้ผิวเต่งตึงขึ้น
  • บริเวณที่ต้องการลดริ้วรอยและร่องลึก
  • บริเวณที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียน เติมเต็มร่องลึก หลุมสิว
  • บริเวณที่ต้องการปรับผิวให้สว่าง กระจ่างใสมากยิ่งขึ้น

ข้อดี-ข้อเสียของไหมคอลลาเจน

ข้อดีของการร้อยไหมคอลลาเจน

  • ช่วยลดอาการหย่อนคล้อยของผิวหนังได้ ผิวดูเรียบเนียน อ่อนเยาว์ ยกกระชับ และริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้าให้ดูตื้นขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้ดี ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นสูง
  • ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใสมากขึ้น
  • ช่วยเก็บกรอบหน้าพร้อมปรับให้ใบหน้าดูเรียวเป็นวีเชฟมากขึ้น
  • ตัวเส้นไหมจะละลายไปเองตามกระบวนการของร่างกาย ไม่ทิ้งสารตกค้าง
  • การร้อยไหมคอลลาเจนใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ทำการรักษาเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ผลลัพธ์ในการรักษาจะอยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล
  • การร้อยไหมคอลลาเจนสามารถทำร่วมกับไหมก้างปลาได้ จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลชัดเจน

ข้อเสียการร้อยไหมคอลลาเจน

  • อาจจะมีแผลเล็กๆภายหลังจากการทำการรักษา แต่จะหายไปเอง
  • อาจจะมีอาการบวมแดงเกิดขึ้นหลังทำการรักษาได้

ร้อยไหมคอลลาเจนอันตรายไหม

การร้อยไหมคอลลาเจน เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าได้อย่างปลอดภัยปราศจากอันตรายใดๆ ไหมส่วนใหญ่ที่ใช้จะเป็นไหม PDO (Polydioxanone) ซึ่งเป็นไหมสังเคราะห์ชนิดละลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และองค์กรต่างๆ แต่เนื่องจากปัจจุบัน ในวงการเสริมความงามมีการแข่งขันกันมากขึ้น คลินิกบางที่ก็มีการนำผลิตภัณฑ์ไหมที่ไม่ได้คุณภาพมาใช้เพื่อเป็นการลดต้นทุน ซึ่งอาจส่งผลเสียตามมาภายหลังได้ ดังนั้นคนไข้ควรต้องเลือกเข้ารับการรักษากับคลินิกที่น่าเชื่อถือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงจะมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอน

ขั้นตอนการร้อยไหมคอลลาเจน

  1. ทายาชาบริเวณใบหน้า 30 นาที
  2. ทำความสะอาดทั่วใบหน้าด้วยแอลกอฮอล์
  3. แพทย์ทำการร้อยไหมเข้าไปในเนื้อเยื่อผิว โดยแพทย์จะทำการร้อยเรียงเส้นไหมเป็นแนวตาข่ายสานกันทำให้เกิดแรงตึงเพิ่มขึ้น
  4. หลังจากที่แพทย์ทำการรักษาเสร็จ จะทำการประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม
  5. แพทย์อาจให้รับประทานยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบตามอาการ ขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละบุคคล

วิธีการดูแลตนเองหลังร้อยไหมคอลลาเจน

  1. หลังจากการร้อยไหมควรหลีกเลี่ยงความร้อนและประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากทำการรักษาเพื่อลดอาการบวมช้ำ
  2. หลังจากการร้อยไหมควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีใช้ความร้อนสูง เช่น การอบซาวน่า การรับประทานหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ทำให้ใบหน้าต้องเผชิญกับความร้อนอยู่ตลอดเวลา
  3. หลังจากการร้อยไหมควรหลีกเลี่ยงการนวด กด หรือสัมผัสในบริเวณที่ทำการรักษาเพราะอาจจะทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้วางแผนไว้
  4. หลังจากการร้อยไหมควรงดรับประทานกลุ่มยาแก้ปวด หรือยาที่ทำให้เลือดแข็งตัว เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ประมาณ 1 สัปดาห์
  5. หลังจากการร้อยไหมควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และงดสูบบุหรี่ประมาณ 2 สัปดาห์
  6. หลังจากการร้อยไหมควรงดการทำเลเซอร์ และทรีทเม้นท์ ประมาณ 2 สัปดาห์

สรุป

การร้อยไหมคอลลาเจนเป็นอีกหนึ่งในนวัตกรรมสำหรับการมีใบหน้าดูอ่อนเยาว์ โดยให้ผลลัพธ์ความแตกต่างทันที หลังทำ จะออกฤทธิ์ชัดเจนและมีประสิทธิภาพสูงสุด ภายใน 1 เดือน มีความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย สามารถสลายไปได้เองไม่ทิ้งสารตกค้าง

error: Content is protected !!