การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต

1. ก่อนทำการฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเมโสแฟต ผลิตภัณฑ์เมโสแฟต กระบวนการ ขั้นตอนการปฏิบัตรก่อน-หลังฉีดเมโสแฟต และที่สำคัญควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ทำการฉีดเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่อาจจะตามมาภายหลังการฉีด
2. ก่อนทำการฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรหยุดยาในกลุ่มแอสไพริน, NSAIDS, Dipyridamole ก่อนเข้ารับการรักษาประมาณ 3 วันเพื่อลดอาการเกิดรอยฟกช้ำ เช่น ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา วิตามินอี Ibuprofen Naproxen
3. ก่อนทำการฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำการรักษาประมาณ 24 ชั่วโมง
4. ก่อนทำการฉีดเมโสแฟตคนไข้ที่มีโรคประจำตัวควรแจ้งให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการรักษาทราบ เพื่อที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะได้พิจารณาคนไข้ว่าควรปฏิบัติเช่นไรก่อนเข้ารับการรักษา

1. ก่อนทำการฉีดเมโสแฟตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษา แนะนำ และประเมินใบหน้าคนไข้ว่าต้องใช้ตัวยาปริมาณเท่าไหร่
2. ก่อนทำการรักษาคนไข้ควรแจ้งประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัวให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทราบ
3. ก่อนที่แพทย์จะทำการรักษา แพทย์จะทำความสะอาดใบหน้าและทำการประคบน้ำแข็งหรือทายาชาเพื่อลดอาการเจ็บเวลาทำการรักษา
4. แพทย์จะทำการฉีดตัวยาเข้าไปในบริเวณที่จะสลายไขมัน โดยปริมาณที่ใช้ในการฉีดจะอยู่ที่ 0.2-0.5 cc/จุด โดยแต่ละจุดที่แพทย์ทำการฉีดเข้าไปห่างกันประมาณ 2 เซนติเมตร
5. หลังจากที่แพทย์ทำการรักษาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยนั้น ในคนไข้บางรายแพทย์อาจจะแนะนำให้มาฉีดซ้ำในอีก 2 สัปดาห์ เนื่องจากคนไข้บางรายมีปริมาณไขมันสะสมค่อนข้างเยอะ ดังนั้นการรรักษาจะขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมของแต่ละบุคคล

ในการฉีดเมโสแฟตนั้น กลุ่มคนไข้ที่ควรระวังและควรหลีกเลี่ยงเข้ารับการรักษา ได้แก่

• คนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานต้องให้ยาอินซูลินเป็นประจำ
• คนไข้ที่เป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิตหรือหลอดเลือด อาทิเช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เส้นเลือดในสมองอุดตัน และผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด
• คนไข้ที่เป็นโรคมะเร็ง
• คนไข้ที่กำลังตั้งครรภ์

• หลังจากฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ตัวยาเมโสแฟตที่ฉีดเข้าไปสลายไขมันนั้นช่วยขับไขมันส่วนเกินออกมาในรูปแบบของปัสสาวะ
• หลังจากฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรออกกำลังกาย เช่น แอโรบิค การเดินเร็ว โยคะหรือคาดิโอ เพื่อช่วยลดการเกิดไขมันใหม่และช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวบริเวณที่ทำการฉีดเมโสแฟตนั้นมีความกระชับ อย่างน้อยควรออกกำลังกายประมาณ 30 นาที/วัน
• ควบคุมและเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อไม่ให้ไขมันส่วนเกินกลับมาอีกครั้ง เพราะในการฉีดตัวยาเมโสแฟตเข้าไปถ้าหากคนไข้ยังไม่ควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารอาจทำให้ผลลัพธ์ในการฉีดเป็นไปอย่างไร้ประโยชน์ ดังนั้นคนไข้ควรที่จะมีวินัยในการควบคุมพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้มากขึ้น
• หลังจากฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรทำ RF ควบคู่กับการฉีดเมโสแฟตเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นผลที่ชัดเจน เพราะการทำ RF จะช่วยรีดไขมันออกจากร่างกายและช่วยทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ช่วยลดอาการหย่อนคล้อยของผิวหนังได้ดี
• หลังทำการฉีดเมโสแฟตคนไข้ควรงดอาหารหมักดองและแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้อย่างยาวนาน
• หลังจากฉีดเมโสแฟตคนไข้บางรายอาจจะพบอาการบวมช้ำที่เกิดขึ้นได้ แต่อาการบวมช้ำเหล่านี้จะหายไปภายใน 2 – 3 วัน แต่คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ อบซาวน่า นวดบริเวณที่ทำการฉีดเพื่อลดอาการบวมช้ำประมาณ 1 อาทิตย์

          การฉีดเมโสแฟตในครั้งแรกอาจจะเห็นผลลัพธ์ได้เลยภายหลังเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ ไขมันที่สลายไปแล้วจะสลายไปเลย หากคนไข้ไม่ได้อ้วนขึ้นหรือมีพฤติกรรมที่ไม่ได้ดูแลตัวเอง ไขมันก็มีโอกาสจะกลับมาใหม่ได้ แต่เพื่อการรักษาที่คงอยู่ได้ยาวนานและเห็นผลชัดเจน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้คนไข้ที่มีปริมาณไขมันค่อนข้างมาก กลับมาฉีดเมโสแฟตซ้ำอีกครั้งประมาณ 2 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมินว่าควรทำปริมาณเท่าใดหรือกี่ครั้ง

         หลังจากที่คนไข้ทำการฉีดเมโสแฟตเข้าไปในบริเวณนั้นๆแล้ว ตัวยาจะค่อยๆเข้าไปสลายไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวและถูกขับมาทางปัสสาวะ และจะเริ่มรู้สึกเห็นถึงผลการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2 – 3 วัน และจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนสูงสุด 7 วันหลังทำการฉีดเมโสแฟต

         การฉีดเมโสแฟตที่ 44Clinic ถือว่ามีความปลอดภัยมาก เพราะทางคลินิกเลือกใช้เมโสแฟตที่มีส่วนประกอบสำคัญมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ ที่สามารถสลายออกจากร่างกายได้อย่างดี ซึ่งตัวยามีสรรพคุณในการสลายไขมันสะสม เพิ่มการไหลเวียนของระบบเลือดและต่อมน้ำเหลืองได้ดี และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำแนะนำกับคนไข้ที่เข้ามารับบริการว่าควรจะทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน