ไขมันส่วนเกินเกิดจากอะไร
ไขมันส่วนเกินเกิดมาจากสิ่งที่เรามองข้าม โดยปกติจะเกิดขึ้นกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการปัจจัยในการใช้ชีวิตประจำวันเหล่านี้ที่กลายเป็นปัจจัยหลักในการทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน
- กินข้าวไม่เป็นเวลา จะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายเกิดการทำงานที่ผิดปกติ เพราะกินอดอาการหรือกินข้าวไม่ตรงเวลา ร่างกายจะขาดพลังงาน จึงทำให้ระบบการทำงานในร่างกายเริ่มช้าลง ทำให้เผาผลาญแคลอรี่ได้น้อย จึงก่อให้เกิดไขมันส่วนเกินขึ้นได้
- ดื่มน้ำน้อย การดื่มน้ำในปริมาณ 8 แก้วต่อวันจะช่วยทำให้เซลล์ทำงานได้ตามปกติ เพราะน้ำเป็นตัวกระตุ้นระบบเผาผลาญและยังมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกไขมัน แป้ง ทอด เพราะเมนูอาหารเหล่านี้มีไขมันเป็นส่วนประกอบค่อนข้างสูงโดยที่เราไม่รู้ตัว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงหรือเปลี่ยนเป็นอาหารประเภทนึ่ง ต้ม เพื่อไม่ให้เกิดไขมันสะสม
- แอลกอฮอลล์ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เซลล์ในร่างกายสูญเสียน้ำ เพราะแอลกอฮอลล์ เข้าไปทำลายเซลล์ตับที่ช่วยเรื่องการขับถ่ายของเสีย จึงทำให้เซลล์ในร่างกายไม่สามารถขจัดสารพิษได้ตามปกติ
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายเกิดการแปรปรวน จึงทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานผิดปกติ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันและเซลล์ลูไลท์ ดังนั้นควรนอนพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง เพราะในช่วงที่เรานอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอนั้น โกรทฮอร์โมนจะหลั่งออกมาซ่อมแซม ฟื้นฟูร่างกาย ช่วยทำให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี
- การสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีนิโคตินจึงทำให้ไปอุดตันในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดฝอยหดตัว จึงส่งผลให้เกิดไขมันสะสมหรือเซลลูไลท์ได้
- ออกกำลังกายน้อยเกินไปหรือไม่ออกกำลังกาย เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันส่วนเกิน เพราะในแต่ละวันร่างกายต้องทำการเบิร์นไขมันออกโดยการเคลื่อนไหวของร่างกาย การออกกำลังกายจะเพิ่มโกรทฮอร์โมนและนอร์อะดรีนาลีนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซล์ไลเปสที่ย่อยสลายไขมันออกมา ซึ่งควรออกกำลังกายอย่างน้อยต่อเนื่องครั้งละ 30 – 60 นาทีต่อวัน
ประเภทของไขมัน
ไขมันเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกายโดยกรดไขมันจำเป็นต่อการเจริญเติบโต และช่วยรักษาสมดุลของผิวหนัง เป็นแหล่งกำเนิดฮอร์โมนหลากหลายชนิด ถ้าหากบริโภคไขมันในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะส่งผลเสียให้ร่างกายได้ ไขมันสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิดดังนี้
- ไขมันอิ่มตัว (Saturated Fat) เป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงของระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ มีลักษณะไขมันที่แข็งตัวเมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ไขมันอิ่มตัวมักจะพบในเนื้อสัตย์และผลิตภัณฑ์เนยนม เช่น เนยสด น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ชีส เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ติดหนัง ไส้กรอก เบค่อน
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) เป็นไขมันที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดี ลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมอง รวมทั้งทำให้ร่างกายได้รับกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายและมีประโยชน์มาก เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันงาหรือน้ำมันดอกคำฝอย อะโวคาโด คาโนลา ทูน่า แมคเคอเรล แซลมอน และจำพวกถั่วหรือเมล็ดธัญพืชต่างๆ
- ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated Fat) เป็นไขมันที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีในเลือด ลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในสมอง รวมทั้งให้สารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเซลล์ในร่างกายและได้รับกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายและมีประโยชน์มาก เช่น น้ำมันทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันงา น้ำมันปลาแซลมอน ปลาแซลมอน ปลาทะเล งาขี้ม่อน เมล็ดเชีย แฟล็กซีด ไข่ สาหร่าย ผักโขม บล็อคโคลี่ และถั่วแระ
- ไขมันทรานส์ (Trans Fat) เป็นไขมันที่ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลไม่ดีเพิ่มขึ้น ลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองได้สูงขึ้น นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ตับทำงานผิกปกติและเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้ จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันประเภทนี้ เช่น ครีมเทียม เนยเทียม มายองเนส ช็อคโกแลต น้ำมันถั่วเหลือง มาการีน อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ขนมอบ ฟาสต์ฟู้ด อาหารแช่แข็ง ไขมันเนย ของทอด
เมโสแฟตช่วยสลายไขมันได้อย่างไร
เมโสแฟตเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด โดยมีส่วนประกอบของสารสกัดธรรมชาติที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่ร่างกายสามารถสลายไปได้เอง โดยส่วนผสมหลักที่เลือกใช้มีดังนี้
- Artichoke Extract ที่ช่วยในการลดการสร้างกรดไขมันและย่อยไขมันไปเป็นพลังงานให้กับร่างกาย
- L-Carnitine ที่จะช่วยเร่งในการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ช่วยลดมวลไขมันพร้อมเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และยังช่วยในการดึงไขมันออกมาใช้เป็นพลังงานได้
- Tyrosine ที่จะช่วยเร่งระบบเผาผลาญ ทำให้ไขมันแตกตัวและมีขนาดเล็กลง จึงถูกขับออกมาทางปัสสาวะ
เมโสแฟตสลายไขมันบริเวณไหนได้บ้าง
- สลายไขมันบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าเรียว ได้สัดส่วน ใบหน้าดูเล็กลง
- สลายไขมันบริเวณเหนียง(ใต้คาง) ทำให้ไขมันบริเวณใต้คางลดลง ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
- สลายไขมันบริเวณหน้าท้อง(พุง) ทำให้บริเวณหน้าท้องดูลดลง แบนราบ และกระชับขึ้น
- สลายไขมันบริเวณ ต้นแขน ต้นขา ทำให้บริเวณแขนและขาดูเล็กลง เรียวขึ้น
- สลายไขมันบริเวณน่อง ส่วนใหญ่มักจะเป็นกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน อาจจะต้องใช้โบท็อกซ์ควบคู่เพื่อใช้ในการลดขนาด
สรุป
การฉีดสลายไขมันด้วยเมโสแฟตถือว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาไขมันสะสมได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และเร่งด่วน สำหรับคนไข้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายหรือต้องการสลายไขมันสะสมเฉพาะส่วน การฉีดเมโสแฟตจึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ต้องเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและต้องเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญเท่านั้น
อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ เมโสแฟต