Q-Switch Laser

Q-Switch Laser คืออะไร

Q – Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่ใช้สำหรับเน้นการรักษาปัญหา ฝ้า กระ รอยดำ รอยแดง และจุดด่างดำบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียนกระจ่างใสได้อีกด้วย โดยเลเซอร์จะปล่อยลำแสงทำให้เม็ดสีกระจายตัว หลังจากนั้นกลไกการทำงานของเม็ดเลือดขาวจะจับเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำลายเซลล์เม็ดสีนั้นๆ และขับออกมาจากร่างกายในรูปแบบของเสีย

การทำงานของ Q-Switch Laser

หลักการทำงานของเลเซอร์ Q – Switch Laser พลังงานจากตัวเครื่องจะปล่อยพลังงานแสงออกมาทำให้เม็ดสีในบริเวณนั้นๆถูกกำจัดและกระจายตัวออก จากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมเม็ดสีเหล่านั้นและทำให้ถูกทำลายออกไป ซึ่งลำแสงเลเซอร์จะมีอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกเป็นความยาวคลื่นอยู่ที่ 532 nm ทำให้เม็ดสีนั้นถูกทำลายอยู่ในชั้นผิวตื้น เหมาะสำหรับการรักษาจำพวก ฝ้าตื้น กระตื้น กระแดด ส่วนชนิดที่สองจะมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1064 nm เหมาะสำหรับการรักษาจำพวก รอยแผลเป็น ฝ้า กระฝังลึก รอยสิว โดยการที่เรารักษาอย่างต่อเนื่องจะทำให้บริเวณที่ทำการรักษาจากลง ผิวหน้าดูกระจ่างขาวใสขึ้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ทำ 3 – 6 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและได้ประสิทธิภาพ

Q-Switch Laser ช่วยเรื่องอะไร

  • ช่วยรักษารอยดำ รอยแดง รอยสิว รอยแผลเป็น เลเซอร์จะทำให้รอยต่างๆ ดูจางลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา
  • ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ที่ทำให้เกิดฝ้า กระ
  • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหน้าเพื่อให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใส อ่อนเยาว์ และเรียบเนียน
  • ช่วยทำลายเซลล์ที่สร้างเม็ดสีที่ผิดปกติ
  • ช่วยทำให้ปากอมชมพู เพราะเลเซอร์สามารถลดรอยหมองคล้ำของริมฝีปากได้
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า และกระชับรูขุมขน

Q-Switch Laser เหมาะกับใคร

การทำเลเซอร์จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระตื้น กระลึก จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น รอยคล้ำบริเวณใต้ตาและริมฝีปาก นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาผิวแล้วยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ทำให้ผิวหน้ากระชับ แต่การทำเลเซอร์ Q – Switch จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอักเสบเพราะอาจจะทำให้สิวกระตุ้นและเห่อขึ้นมากกว่าเดิม

Q-Switch Laser แก้ไขปัญหาผิวได้จริงหรือไม่

การใช้ Q – Switch ในการรักษาปัญหาผิว กลไกการทำงานของเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เม็ดสีที่มีความเข้มผิดปกติถูกทำลาย และกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน ส่งผลทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง หรือแผลเป็นเล็กๆจากสิว ค่อยๆจางลง ผิวจะดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น เพียงแต่ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำเลเซอร์ จะใช้ระยะเวลาในการรักษาที่ยาวนานกว่าการฉีดเล็กน้อย และอาจจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอติดต่อกัน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพสูงสุด

Q-Switch Laser อันตรายหรือไม่

Q – Switch เลเซอร์เป็นอีกหนึ่งในหัตถการที่มีความปลอดภัยสูงสำหรับในการนำมาใช้แก้ปัญหาผิวที่คนไข้เป็นกังวล เพียงแต่คนไข้จะต้องเลือกเข้ารับบริการกับทางคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้เครื่องแท้ที่มีคุณภาพและดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยในการรักษา

การทำเลเซอร์ Q-Switch

ควรศึกษาและเลือกสถานเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน เพราะเครื่อง Q – Switch มีหลายระดับ ซึ่งจะมีผลต่อการรักษา หากเครื่องมีมาตรฐานดีจะเห็นผลตั้งแต่การทำครั้งแรกๆ และต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังหรือแพทย์เท่านั้น หลังจากทำเลเซอร์คนไข้บางรายอาจรู้สึกร้อนและมีอาการแดงเล็กน้อยบริเวณที่ทำเลเซอร์ ซึ่งอาการร้อนและความแดงจะหายไปเองภายใน 30 – 45 นาที สามารถใช้การประคบเย็นเพื่อช่วยบรรเทาอาการร้อนได้

การดูแลตัวเองหลังทำ Q-Switch Laser

  • คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง เพราะแดดอาจจะทำให้เม็ดสีเข้มขึ้นได้
  • คนไข้ควรทาครีมกันแดดทุกวันก่อนออกไปสัมผัสกับแดด
  • คนไข้ควรเลือกทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไปเท่านั้น
  • คนไข้ควรสวมหมวกหรือกางร่มเวลาออกกลางแจ้ง
  • คนไข้ควรป้องกันไม่ให้ผิวเจอแดดโดยตรง
  • คนไข้ที่ไม่มีการตกสะเก็ดบนใบหน้าสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
  • หากคนไข้มีการตกสะเก็ดให้งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมงหลังทำ และห้ามแกะเกาบริเวณที่ตกสะเก็ด ควรปล่อยให้แผลแห้งไปเอง

ข้อดี-ข้อเสียของ Q-Switch Laser

ข้อดีของการทำ Q – Switch Laser

การรักษาด้วย Q – Switch Laser จะได้ผลดีในบริเวณที่ต้องการทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ เช่น บริเวณฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแผลจากสิว กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง ใบหน้าเรียบเนียน และยังช่วยทำให้รูขุมขนกระชับ โดยสามารถทำได้ทุกสภาพผิวแต่ยกเว้นสำหรับคนไข้ที่มีสิวอักเสบเพราะอาจจะทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นได้

ข้อเสียของการทำ Q – Switchc Laser

การรักษาด้วย Q – Switch Laser ครั้งแรกจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเวลาเลเซอร์ยิงลงบนผิว และจะรู้สึกอุ่นๆบริเวณที่ทำการรักษา แต่หลังจากทำการรักษาเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ความรู้สึกเจ็บเล็กๆก็จะหายไป คนไข้บางรายอาจจะมีการตกสะเก็ดของผิว แต่จะหลุดออกไปภายใน 3 – 7 วัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ทำห่างกันประมาณ 1 เดือน โดยการทำการรักษาจะต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

Q-Switch Laser นานไหมกว่าจะเห็นผล

เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนที่สุด ควรทำต่อเนื่องติดต่อกันประมาณ 5 – 6 ครั้ง โดยเว้นระยะการทำแต่ละครั้งประมาณ 1 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาด้วย ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน

สรุป

การทำ Q – Switch Laser เป็นการใช้แสงเลเซอร์ในการรักษาปัญหา ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ โดยแสงเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีที่มีความเข้มมากกว่าปกติ ทำให้รอยต่างๆ ดูจางลง อีกทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการแก้ไขความกังวลเหล่านี้ แต่ไม่อยากใช้วิธีฉีดตัวยาเข้าสู่ผิว แต่ทั้งนี้คนไข้ควรศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกเข้ารับบริการกับคลินิกที่ได้รับมาตรฐานที่ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับบริการ

 

ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
error: Content is protected !!