Yag Laser

ในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีที่เป็นที่นิยมมากๆ ในการกำจัดเส้นขน ไม่ว่าจะเป็นการโกน การแว๊กซ์ หรือในบางคนอาจใช้วิธีถอน นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งวิธีที่เรียกว่า Yag Laser ได้ถูกพัฒนามาเพื่อใช้สำหรับการกำจัดเส้นขนโดยเฉพาะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้คนไข้ได้รู้จักกับการใช้ Yag Laser กำจัดเส้นขนได้อย่างละเอียด เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับคนไข้ที่กำลังตัดสินใจจะเข้ารับบริการ

เทคโนโลยี Yag Laser เป็นการนำเลเซอร์มาใช้เพื่อให้ลำแสงเข้าไปกำจัดเซลล์รากขนในระดับลึกที่สุดใต้ชั้นผิว เพื่อให้เซลล์เส้นขนนั้นๆเสื่อมสภาพตั้งแต่รากเส้นขนจนหลุดร่วงไปและไม่กลับมางอกขึ้นใหม่ในที่สุด โดยเลเซอร์ตัวนี้สามารถกำจัดเส้นขนได้ทั่วทุกบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า แขน ขา รักแร้ หรือแม้กระทั่งบริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งนอกจากจะกำจัดเส้นขนได้แล้ว กลไกการทำงานของเลเซอร์ตัวนี้ยังช่วยให้ผิวมีความขาวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้นได้อีกด้วย

ในการทำงานของ Yag Laser ตัวเลเซอร์ จะส่งคลื่นพลังงานที่มีความยาวของช่วงคลื่น ประมาณ 1064 นาโนเมตร ตรงเข้าสู่ใต้ชั้นผิว แล้วส่งความร้อนเข้าไปทำลายเซลล์รากขน เพื่อหยุดการเจริญเติบโตของเส้นขนบริเวณนั้นๆ ทำให้เส้นขนหลุดร่วง และเส้นขนไม่กลับมาขึ้นอีก ในแต่ละครั้งเซลล์เส้นขนจะถูกกำจัดได้มากกว่า 50% ดังนั้นคนไข้จะต้องรับเข้าบริการทำเลเซอร์อย่างน้อย 3 – 5 ครั้ง ขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการรักษา

Yag Laser จะใช้คลื่นพลังงานที่เปลี่ยนแปลงเป็นความร้อนลงไปสู่ใต้ชั้นผิว ตรงเข้าไปทำลายเซลล์เส้นขน ทำให้เส้นขนบริเวณนั้นๆถูกกำจัดออกไปอย่างถาวร นอกจากนั้นยังทำให้ผิวบริเวณนั้นกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้นได้อีกด้วย สามารถทำได้ในทุกบริเวณและทุกสภาพผิว โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ที่เป็นอันตราย

การทำเลเซอร์กำจัดเส้นขนเหมาะกับคนไข้ที่มีเส้นขนทั่วทั้งร่างกาย เช่น บริเวณใบหน้า ขนรักแร้ เครา หนวด ขนแขน ขนขา หรือแม้กระทั่งบริเวณจุดซ่อนเร้น เหมาะสำหรับบุคคลที่อยากมีผิวเรียบเนียน ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการโกน หรือแม้กระทั่งการแว๊กซ์ขน ไม่ทำให้เกิดขนคุด หรือตุ่มหนังไก่ เหมือนการโกน และไม่เจ็บเหมือนการแว๊กซ์ขน อีกทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ถาวรหากรับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ด้วยกลไกการทำงานของ Yag Laser สามารถช่วยกำจัดเส้นขนได้ลึกถึงระดับเซลล์รากขน ทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างถาวร เพื่อให้มีผิวที่เรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น เป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

การทำเลเซอร์ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างไร หลังจากที่คนไข้ทำการรักษาอาจจะมีอาการแดงเกิดขึ้นบนผิวหนังบ้างเล็กน้อยแล้วจะค่อยๆหายไปภายใน 30 – 60 นาที พลังงานเลเซอร์สามารถทำลายเส้นขนจนถึงเซลล์รากขนให้ตายลงโดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงและสามารถป้องกันการกลับมาของเส้นขนใหม่ได้ดีที่สุด

1. หลังจากทำการรักษาผิวอาจจะมีอาการแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองภายใน 30 นาที
2. หลังจากทำการรักษาคนไข้บางรายอาจจะมีอาการผิวแห้งและลอก ประมาณ 1 – 2 วัน คนไข้สามารถใช้ครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้
3. หลังจากทำการรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดดที่ร้อนจัดบริเวณที่ทำ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+++
4. ควรทำทรีทเม้นท์บำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิว อย่างน้อยเดือนละ 1ครั้ง
5. ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดเซลล์ผิวหรือการลอกผิว

ข้อดีของ Yag Laser

• ช่วยกำจัดเส้นขนจนถึงรากขน และช่วยปรับให้สภาพผิวเรียบเนียน
• ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและสว่างกระจ่างใสขึ้น
• ช่วยทำให้รูขุมขนกระชับและเล็กลง
• ช่วยรักษาปัญหาขนคุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียน ขาวใส
• ช่วยลดรอยดำ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
• ช่วยแก้ปัญหารักแร้ดำ ปรับสีผิวใต้วงแขน

ข้อเสียของ Yag Laser

• คนไข้ที่ทำการรักษาบ่อยจนเกินไปอาจจะทำให้ผิวดำลงกว่าเดิมได้
• หากตั้งค่าพลังงานที่สูงเกินไปอาจจะทำให้เกิดแผลในการรักษาได้

การทำเลเซอร์กำจัดเส้นขนในครั้งแรกจะสังเกตได้ว่าปริมาณเส้นขนลดลง ให้ผลลัพธ์อย่างน้อย 15 – 20% หลังจากทำการรักษาในครั้งแรก หลังทำไปอาจจะยังมีเส้นขนหลงเหลืออยู่บ้าง แต่เส้นขนที่เกิดขึ้นใหม่ จะอ่อนลง บางลง และบางเส้นอาจจะไม่ขึ้นอีกเลย แต่ถ้าอยากให้เส้นขนหายไปอย่างถาวรแนะนำให้ทำทุก 4 สัปดาห์/ครั้ง นอกจากเลเซอร์จะช่วยทำลายเส้นขนแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังทำให้ผิวดูเรียบเนียน ขาวกระจ่างใสขึ้น

การทำเลเซอร์เป็นเทคโนโลยีที่มีความยาวคลื่นแสงสูง พลังงานถูกส่งผ่านผิวลงลึกถึงรากขน จึงทำให้เส้นขนถูกทำลายลง ทำให้สภาพสีผิวสม่ำเสมอ เรียนเนียน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย พลังงานความร้อนส่งผลให้รากขนตายลงและไม่ทำให้เนื้อเยื่อเกิดความบอบช้ำแต่อย่างใด เลเซอร์จึงสามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการกลับมาของเส้นขนใหม่ได้ดีที่สุด