![](https://44clinic.com/wp-content/uploads/2023/10/anti-wrinkles.jpg)
โบท็อกซ์ลดริ้วรอย
“ริ้วรอย” หนึ่งในปัญหาใหญ่ของใครหลายๆคน จะสังเกตได้ว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะมีหนึ่งปัญหาที่ตามมาซึ่งก็คือริ้วรอยบริเวณต่างๆ เนื่องจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้า อาจเกิดได้จากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นเวลานาน หรือความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว วิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันที่ให้ผลลัพธ์อย่างชัดเจนและรวดเร็วก็คือการ ฉีดโบท็อกซ์ หรือ การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเอ เมื่อฉีดไปแล้ว จะมีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ช่วยลดเลือน ริ้วรอยต่างๆ ทำให้ผิวตึงกระชับ เรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายไหม?
การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยไม่เป็นอันตรายเนื่องจากเป็นโปรตีนที่ถูกสกัดเพื่อให้มีความบริสุทธิ์ที่สุด เมื่อนำมาใช้ฉีดแก้ปัญหาริ้วรอย จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยในการนำมาใช้รักษา เพียงแต่คนไข้ต้องศึกษารายละเอียดให้ดี และควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะปลอดภัย
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
- เป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยความเหี่ยวย่นได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
- ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ หรือ โกรธ
- เป็นการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด
- ไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน เมื่อฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆที่เป็นอันตราย
ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย
- หากฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
- หากฉีดผิดวิธีอาจส่งผลให้ใบหน้าผิดรูปได้
- หากเลือกฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงพอๆกับการใช้โบท็อกซ์ปลอมได้
- มีราคาค่อนข้างสูงในบางยี่ห้อ
- มีระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่ไม่ถาวร
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยอยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย มีทางเลือกมากมายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีด แต่ระยะเวลาการของการออกฤทธิ์ของผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั้นๆ คนไข้สามารถพิจารณาเลือกใช้ได้ตามความต้องการและตามความเหมาะสม แต่หากจะให้กล่าวว่าการฉีดโบท็อกซ์ลดเลือนริ้วรอยนั้นสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน ก็จะบอกได้ว่าระยะเวลาของการออกฤทธิ์จะเริ่มต้นตั้งแต่ 3 – 24 เดือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล อีกทั้งระยะการออกฤทธิ์จะยาวหรือสั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยในการดูแลตนเองหลังฉีดของคนไข้อีกด้วย
![](https://44clinic.com/wp-content/uploads/2023/11/Botox-products.jpg)
ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดี?
ในการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คนไข้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตรงต่อการแก้ปัญหาของตนเอง ดังนั้น คนไข้จึงต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจซึ่ง 44Clinic ได้รวบรวมรายละเอียดของโบท็อกซ์แต่ละแบรนด์ มาไว้ให้คุณได้เลือกใช้ตามข้อมูลในหัวข้อนี้แล้ว
1. Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)
Botox Allergan มีงานวิจัยรองรับยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 1989 และผ่านการพัฒนาเพื่อทำให้โอกาสในการดื้อยาน้อยที่สุด ได้รับการยอมรับมากที่สุดในบรรดายี่ห้ออื่นๆ ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด เพราะโมเลกุลกระจายได้แคบที่สุด เมื่อแพทย์ฉีดตัวยาเข้าไปจึงสามารถควบคุมการกระจายตัวได้ดี นิยมฉีดเข้ากล้ามเนื้อคลายตัว ลดริ้วรอยได้ดี และทำให้ขนาดกล้ามเนื้อเล็กลง แก้ปัญหาเหนียงคอ ผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าห้อยหรือหน้าตก ซึ่งจะอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
2. Dysport (โบท็อกซ์อังกฤษ)
จุดเด่นของโบท็อกซ์อังกฤษ คือเมื่อฉีดแล้วตัวยากระจายทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ เหมาะกับการฉีดลิฟท์กรอบหน้าด้วยเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับผิว สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวจะตึงขึ้นประมาณ 50% นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง และเนื่องจากโบท็อกซ์อังกฤษมีการกระจายตัวยากว้าง แพทย์จึงต้องมีประสบการณ์และใช้ความระมัดระวังในการฉีด เพื่อไม่ให้ยากระจายไปยังจุดที่ไม่ต้องการ และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
3. Xeomin (โบท็อกซ์เยอรมัน)
โบท็อกซ์เยอรมันเน้นการพัฒนาโดยนำเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีโปรตีนผสม ถ้าคนไข้ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ก็จะได้รับตัวยาโบท็อกซ์เพียวๆ 100% มีโอกาสดื้อยาน้อยที่สุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่เเข็งตึง ได้ผลดีในคนไข้ที่ดื้อยา ( หากเป็นคนไข้ที่เคยดื้อยาเเล้วหยุดฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 2 – 3 ปี แพทย์จะเเนะนำให้ใช้ Xeomin ) และยังเป็นโบท็อกซ์ที่สามารถฉีดได้ไม่จำกัดปริมาณต่อครั้ง มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
4. Nabota (โบท็อกซ์เกาหลี)
เป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อเดียวของเกาหลีที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA Approved (2018) สกัดจากธรรมชาติผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Hi – Pure Technology ได้สารออกฤทธิ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ไม่ก่อให้เกิดการดื้อยา เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ได้ไว ช่วยลดริ้วรอยที่หน้าผาก ตีนกา หว่างคิ้ว ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กเข้ารูป และช่วยลดริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้าได้อีกด้วย มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 6 – 8 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
5. Botulax (โบท็อกซ์เกาหลี)
เป็นโบท็อกซ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะราคาย่อมเยาว์ ใช้รักษาริ้วรอยบริเวณหางตา ระหว่างคิ้ว รอยย่นหน้าผาก ลดปีกจมูก ลดกราม ลดโหนกแก้ม ยกกระชับหน้าและลดน่อง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 3 – 4 วันหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรอง อย. จากไทย มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 6 – 8 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
6. Aestox (โบท็อกซ์เกาหลี)
โบท็อกซ์ Aestox เป็นโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเกาหลี ใช้สำหรับลดริ้วรอยบนใบหน้า แก้ปัญหากล้ามเนื้อหดเกร็งบริเวณต่างๆหรือแม้กระทั่งใช้ในการปรับรูปหน้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง อีกทั้งยังลดปัญหาในการดื้อยาได้อีกด้วย มีฤทธิ์อยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน เป็นโบท็อกซ์แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่พึ่งจะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย และ KFDA ของประเทศเกาหลี มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย สามารถสลายไปได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างอย่างแน่นอน
7. BTXA (โบท็อกซ์ฮ่องกง)
เป็นแบรนด์ที่ได้นำเข้ามาจากประเทศฮ่องกง คิดค้นโดย Prof.Sugiyama และ Dr.Yinchun Wang ทั้งสองคนเป็นผู้คิดค้น Botulinum Toxin ร่วมกับ Dr.Scott เจ้าของแบรนด์ดังจาก USA และ Botox BTXA ผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐานสากลมีการศึกษาพัฒนามานานกว่า 30ปี ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบเอเชียและอเมริกาใต้ หน้าที่ของ Botox BTXA ช่วยในการคลายกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์มีขนาดที่เล็กลง ริ้วรอยตื้นขึ้น และช่วยในการยกกระชับได้ดี จุดเด่นของ Botox BTXA คือช่วยลดขนาดกรามสามารถเห็นผลได้ภายใน 2 – 3 วันหลังจากฉีด หรือ 1 อาทิตย์ (ในคนไข้บางราย) ออกฤทธิ์ยาวนานกว่า 6 เดือน และผลตอบรับจากลูกค้าเป็นที่น่าพึงพอใจมากกว่า 98%
8. Hugel (โบท็อกซ์เกาหลี)
เป็นเกรดพรีเมี่ยมที่ดีที่สุดจากประเทศเกาหลี คุณภาพของตัวยาโบท็อกซ์เทียบเท่ามาตรฐานของ USA ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย (Thailand FDA) และได้รับการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจากสำนักงานกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศเกาหลี (KFDA) ซึ่งฐานในโรงงานการผลิตใช้ Robot ที่ได้มาตรฐาน ปลอดสารปนเปื้อน Purify 99.51% ป้องกันการดื้อยาและใช้เวลาในการเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 1 – 2 วัน อยู่ได้ยาวนาน 4 – 6 เดือน
อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ Botox
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบท็อกซ์ ( Botox ) คืออะไร? “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Allergan “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Nabota “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Dysport “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Xeomin “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Botulax “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Aestox “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox BTXA “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Botox Hugel “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โบท็อกซ์ลดกราม “คลิกที่นี่”
-
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ข้อปฏิบัติก่อน-หลังฉีดโบท็อกซ์ “คลิกที่นี่”