โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

โบท็อกซ์ลดริ้วรอย

           “ริ้วรอย” หนึ่งในปัญหาใหญ่ของใครหลายๆคน จะสังเกตได้ว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้นจะมีหนึ่งปัญหาที่ตามมาซึ่งก็คือริ้วรอยบริเวณต่างๆ เนื่องจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้า อาจเกิดได้จากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเป็นเวลานาน หรือความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว วิธีที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันที่ให้ผลลัพธ์อย่างชัดเจนและรวดเร็วก็คือการ ฉีดโบท็อกซ์ หรือ การฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเอ เมื่อฉีดไปแล้ว จะมีคุณสมบัติออกฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ช่วยลดเลือน ริ้วรอยต่างๆ ทำให้ผิวตึงกระชับ เรียบเนียน แลดูอ่อนเยาว์

สอบถาม 24 ชม.
โทรด่วน
chatnow

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยเหมาะกับใคร?

  1. เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้า เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา สันจมูก เป็นต้น
  2. เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย สามารถฉีดโบท็อกซ์เพื่อเป็นการยกกระชับใบหน้า ทำให้กรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น

โบท็อกซ์ลดริ้วรอยอันตรายไหม?

การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยไม่เป็นอันตรายเนื่องจากเป็นโปรตีนที่ถูกสกัดเพื่อให้มีความบริสุทธิ์ที่สุด เมื่อนำมาใช้ฉีดแก้ปัญหาริ้วรอย จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างใดๆในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยในการนำมาใช้รักษา เพียงแต่คนไข้ต้องศึกษารายละเอียดให้ดี และควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานและดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นจึงจะปลอดภัย

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

  1. เป็นการแก้ไขปัญหาริ้วรอยความเหี่ยวย่นได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
  2. ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น ยิ้ม หัวเราะ หรือ โกรธ
  3. เป็นการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องใช้การผ่าตัด
  4. ไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลานาน เมื่อฉีดเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  5. มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆที่เป็นอันตราย

ข้อเสียของการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

  1. หากฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
  2. หากฉีดผิดวิธีอาจส่งผลให้ใบหน้าผิดรูปได้
  3. หากเลือกฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงพอๆกับการใช้โบท็อกซ์ปลอมได้
  4. มีราคาค่อนข้างสูงในบางยี่ห้อ
  5. มีระยะเวลาการออกฤทธิ์ที่ไม่ถาวร

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยบวมกี่วัน?

ภายหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ บริเวณที่ฉีดและรอบๆอาจมีอาการบวมเกิดขึ้นได้เนื่องจากตัวยาเข้าไปแทรกอยู่ในระหว่างผิวและชั้นของกล้ามเนื้อ อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองโดยธรรมชาติ ภายใน 1 – 2 ชม. ดังนั้นคนไข้จึงไม่จำเป็นต้องกังวลกับอาการบวมที่เกิดขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยอยู่ได้นานแค่ไหน

การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย มีทางเลือกมากมายสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีด แต่ระยะเวลาการของการออกฤทธิ์ของผลิตภัณฑ์แต่ละตัวนั้นจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์นั้นๆ คนไข้สามารถพิจารณาเลือกใช้ได้ตามความต้องการและตามความเหมาะสม แต่หากจะให้กล่าวว่าการฉีดโบท็อกซ์ลดเลือนริ้วรอยนั้นสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน ก็จะบอกได้ว่าระยะเวลาของการออกฤทธิ์จะเริ่มต้นตั้งแต่ 3 – 24 เดือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล อีกทั้งระยะการออกฤทธิ์จะยาวหรือสั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยในการดูแลตนเองหลังฉีดของคนไข้อีกด้วย

ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยยี่ห้อไหนดี?

ในการฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คนไข้ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตรงต่อการแก้ปัญหาของตนเอง ดังนั้น คนไข้จึงต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจซึ่ง 44Clinic ได้รวบรวมรายละเอียดของโบท็อกซ์แต่ละแบรนด์ มาไว้ให้คุณได้เลือกใช้ตามข้อมูลในหัวข้อนี้แล้ว

1. Allergan (โบท็อกซ์อเมริกา)

Botox Allergan มีงานวิจัยรองรับยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 1989 และผ่านการพัฒนาเพื่อทำให้โอกาสในการดื้อยาน้อยที่สุด ได้รับการยอมรับมากที่สุดในบรรดายี่ห้ออื่นๆ ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด เพราะโมเลกุลกระจายได้แคบที่สุด เมื่อแพทย์ฉีดตัวยาเข้าไปจึงสามารถควบคุมการกระจายตัวได้ดี นิยมฉีดเข้ากล้ามเนื้อคลายตัว ลดริ้วรอยได้ดี และทำให้ขนาดกล้ามเนื้อเล็กลง แก้ปัญหาเหนียงคอ ผิวหน้าหย่อนคล้อย หน้าห้อยหรือหน้าตก ซึ่งจะอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติ มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

2. Dysport (โบท็อกซ์อังกฤษ)

จุดเด่นของโบท็อกซ์อังกฤษ คือเมื่อฉีดแล้วตัวยากระจายทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ เหมาะกับการฉีดลิฟท์กรอบหน้าด้วยเทคนิค Dermolift เพื่อยกกระชับผิว สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวจะตึงขึ้นประมาณ 50% นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง และเนื่องจากโบท็อกซ์อังกฤษมีการกระจายตัวยากว้าง แพทย์จึงต้องมีประสบการณ์และใช้ความระมัดระวังในการฉีด เพื่อไม่ให้ยากระจายไปยังจุดที่ไม่ต้องการ และทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

3. Xeomin (โบท็อกซ์เยอรมัน)

          โบท็อกซ์เยอรมันเน้นการพัฒนาโดยนำเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ไม่มีโปรตีนผสม ถ้าคนไข้ฉีดโบท็อกซ์ Xeomin ก็จะได้รับตัวยาโบท็อกซ์เพียวๆ 100% มีโอกาสดื้อยาน้อยที่สุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาให้ความเป็นธรรมชาติ ไม่เเข็งตึง ได้ผลดีในคนไข้ที่ดื้อยา ( หากเป็นคนไข้ที่เคยดื้อยาเเล้วหยุดฉีดโบท็อกซ์อย่างน้อย 2 – 3 ปี แพทย์จะเเนะนำให้ใช้ Xeomin ) และยังเป็นโบท็อกซ์ที่สามารถฉีดได้ไม่จำกัดปริมาณต่อครั้ง มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 1ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

4. Nabota (โบท็อกซ์เกาหลี)

เป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อเดียวของเกาหลีที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย. อเมริกา U.S.FDA  Approved (2018) สกัดจากธรรมชาติผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Hi – Pure Technology ได้สารออกฤทธิ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 98.7% ไม่ก่อให้เกิดการดื้อยา เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ได้ไว ช่วยลดริ้วรอยที่หน้าผาก ตีนกา หว่างคิ้ว ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กเข้ารูป และช่วยลดริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้าได้อีกด้วย มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 6 – 8 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

5. Botulax (โบท็อกซ์เกาหลี)

เป็นโบท็อกซ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะราคาย่อมเยาว์ ใช้รักษาริ้วรอยบริเวณหางตา ระหว่างคิ้ว รอยย่นหน้าผาก ลดปีกจมูก ลดกราม ลดโหนกแก้ม ยกกระชับหน้าและลดน่อง สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 3 – 4 วันหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป 2 สัปดาห์ มีความปลอดภัยสูงและได้รับการรับรอง อย. จากไทย มีฤทธิ์อยู่ได้นานถึง 6 – 8 เดือน หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

6. Aestox (โบท็อกซ์เกาหลี)

โบท็อกซ์ Aestox เป็นโปรตีนที่สกัดมาจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเกาหลี ใช้สำหรับลดริ้วรอยบนใบหน้า แก้ปัญหากล้ามเนื้อหดเกร็งบริเวณต่างๆหรือแม้กระทั่งใช้ในการปรับรูปหน้า เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งตึง อีกทั้งยังลดปัญหาในการดื้อยาได้อีกด้วย มีฤทธิ์อยู่ได้นาน 6 – 8 เดือน เป็นโบท็อกซ์แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่พึ่งจะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศไทย และ KFDA ของประเทศเกาหลี มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย สามารถสลายไปได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างอย่างแน่นอน

7. BTXA (โบท็อกซ์ฮ่องกง)

เป็นแบรนด์ที่ได้นำเข้ามาจากประเทศฮ่องกง คิดค้นโดย Prof.Sugiyama และ Dr.Yinchun Wang ทั้งสองคนเป็นผู้คิดค้น Botulinum Toxin ร่วมกับ Dr.Scott เจ้าของแบรนด์ดังจาก USA และ Botox BTXA ผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐานสากลมีการศึกษาพัฒนามานานกว่า 30ปี ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแถบเอเชียและอเมริกาใต้ หน้าที่ของ Botox BTXA ช่วยในการคลายกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อหยุดการทำงานชั่วคราว ส่งผลให้บริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์มีขนาดที่เล็กลง ริ้วรอยตื้นขึ้น และช่วยในการยกกระชับได้ดี จุดเด่นของ Botox BTXA คือช่วยลดขนาดกรามสามารถเห็นผลได้ภายใน 2 – 3 วันหลังจากฉีด หรือ 1 อาทิตย์ (ในคนไข้บางราย) ออกฤทธิ์ยาวนานกว่า 6 เดือน และผลตอบรับจากลูกค้าเป็นที่น่าพึงพอใจมากกว่า 98%

8. Hugel (โบท็อกซ์เกาหลี)

เป็นเกรดพรีเมี่ยมที่ดีที่สุดจากประเทศเกาหลี คุณภาพของตัวยาโบท็อกซ์เทียบเท่ามาตรฐานของ USA ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศไทย (Thailand FDA) และได้รับการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจากสำนักงานกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศเกาหลี (KFDA) ซึ่งฐานในโรงงานการผลิตใช้ Robot ที่ได้มาตรฐาน ปลอดสารปนเปื้อน Purify 99.51% ป้องกันการดื้อยาและใช้เวลาในการเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 1 – 2 วัน อยู่ได้ยาวนาน 4 – 6 เดือน

ข้อปฎิบัติหลังฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย

คนไข้สามารถศึกษาเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดโบท็อกซ์ผ่านบทความนี้ได้เลย

คลิกที่นี่

อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ Botox

บริการอื่นของ 44 คลินิก

เมโสแฟต
สอบถาม 24 ชม.
โทรด่วน
chatnow

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!