ข้อปฏิบัติก่อน-หลังฉีดโบท็อกซ์

ข้อปฏิบัติก่อน-หลังฉีดโบท็อกซ์

การฉีดโบท็อกซ์ เป็นอีกหนึ่งในหัตถการยอดนิยมในการนำมาใช้แก้ปัญหาของริ้วรอย ความเหี่ยวย่นบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถปรับรูปหน้าได้อีกด้วย การฉีดโบท็อกซ์เป็นหัตถการที่รวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัดศัลยกรรม และไม่ต้องพักฟื้นเป็นเวลายาวนาน

ในการฉีดโบท็อกซ์ให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด คนไข้จะต้องมีการปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งในหัวข้อนี้ 44Clinic ก็จะพูดถึง ข้อปฏิบัติก่อน – หลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อเป็นความรู้ให้คนไข้ได้ศึกษารายละเอียดเบื้องต้นก่อนที่จะเข้ารับบริการ

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

ในการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีได้คุณภาพ แพทย์ผู้ดำเนินการมีความเชี่ยวชาญ หรือสถานที่ที่ให้บริการได้มาตรฐาน นอกจากนั้นร่างกายที่พร้อมสมบูรณ์ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ดังนั้นจึงมีข้อปฏิบัติที่คนไข้พึงปฏิบัติก่อนการเข้ารับบริการ ซึ่งได้แก่

  1. คนไข้ควรปรึกษาและตรวจสภาพร่างกายกับแพทย์ ว่าจะสามารถรับการรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่ หากร่างกายมีความผิดปกติ ควรรักษาอาการผิดปกติของร่างกายให้หายก่อน หรือหากมีโรคประจำตัวคนไข้อาจจะไม่สามารถรับบริการนี้ได้
  2. คนไข้ควรศึกษาหาข้อมูลของโบท็อกซ์อย่างละเอียด เนื่องจากในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกซ์เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ในคลินิกบางที่อาจนำโบท็อกซ์ปลอมมาใช้เพื่อเป็นการลดต้นทุน หากเข้ารับการรักษาอาจส่งผลเสียตามมาภายหลังได้
  3. งดรับประทานยาในกลุ่มจำพวกวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา  สารสกัดจากโสม น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วยหรืออาหารเสริมที่ส่งผลให้ร่างกายร้อน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ
  4. งดรับประทานยาในกลุ่มจำพวกยาแก้ปวด ยาแอสไพริน ยาจำพวกกลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS เช่น Ibruprofen , Naproxen เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการเพื่อป้องกันอาการฟกช้ำ
  5. สุขภาพร่างกายต้องอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
  6. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการรับการรักษา เป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  7. ควรแจ้งให้แพทย์ผู้ฉีดทราบถึงปัญหาที่กังวลและสิ่งที่ต้องการในแต่ละส่วนอย่างชัดเจนก่อนฉีด เนื่องจากความต้องการที่ต่างกันไปตามแต่ละบุคคล เช่น บางท่านชอบให้ตึงมากๆ แต่บางท่านอาจชอบให้ดูเป็นธรรมชาติ แตกต่างกันไป
  8. คนไข้ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเข้ารับบริการ หากเป็นไปได้ในวันฉีดควรล้างเครื่องสำอางหรือทำความสะอาดใบหน้าก่อนพบแพทย์

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์

หลังจากที่คนไข้เข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์แล้ว ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์และให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนหลังจากการฉีดประมาณสองสัปดาห์ โดยโบท็อกซ์จะมีระยะการออกฤทธิ์ได้ยาวนานตั้งแต่ 3 เดือน ไปจนถึง 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์และ การดูแลตัวเองหลังการฉีดของคนไข้

เนื่องจากการดูแลตัวเองหลังการฉีดโบท็อกซ์เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ได้ยาวนาน 44 Clinic จึงได้รวบรวมข้อปฏิบัติหลังการฉีด มาไว้ให้คนไข้ได้ศึกษาอย่างละเอียดและใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนหลังการเข้ารับบริการ เพื่อให้โบท็อกซ์มีอายุการทำงานที่ยาวนานยิ่งขึ้น

  1. หลังการฉีดโบท็อกซ์ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4 – 6 ชม.เพราะการนอนราบจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่ใบหน้ามาขึ้นเนื่องจากใบหน้าจะอยู่ต่ำกว่าหัวใจ ซึ่งเลือดเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โบท็อกซ์สลายตัวไวขึ้น
  2. หลังจากฉีดโบท็อกซ์ควรบริหารกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด เช่น ยักคิ้ว ขมวดคิ้ว ยิ้ม ขยับหน้าเป็นเวลา 30 นาที
  3. คนไข้ไม่ควรจับ นวด บีบในบริเวณที่ฉีดเพราะอาจจะทำให้โบท็อกซ์กระจายตัวไปยังจุดอื่นได้
  4. คนไข้ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายเกิดความร้อน เช่น อบซาวน่า ออกกำลังกายหนักๆ แช่น้ำอุ่น เนื่องจากความร้อนจะทำให้ตัวยาสลายได้เร็วขึ้น
  5. คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนโดยตรง เช่น การทำกับข้าว กินหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องอยู่หน้าเตาเป็นเวลานานๆ
  6. คนไข้ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน เพราะอาจจะส่งผลต่อฤทธิ์ของโบท็อกซ์ได้
  7. คนไข้ควรรับประทานอาหารเสริม หรืออาหารที่มีส่วนประกอบของ Zinc หรือแร่ธาตุสังกะสี 15 – 20 mg. (มิลลิกรัม) ต่อวัน เพราะในแร่ธาตุสังกะสีมีส่วนช่วยให้โบท็อกซ์ ออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น ดีขึ้น และมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์ที่ยาวนาน
  8. คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการถูใบหน้าอย่างรุนแรง แต่สามารถทาครีมได้ ทาแป้งได้ แต่งหน้าได้ตามปกติ
  9. คนไข้ควรงดการทำทรีทเม้นท์ RF หรือ Laser เป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพราะอาจจะส่งผลต่อการเสื่อมของฤทธิ์โบท็อกซ์
  10. คนไข้ควรงดอาหารหมักดอง เพราะในอาหารจำพวกหมักดองจะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  11. คนไข้ควรฉีดโบท็อกซ์อย่างต่อเนื่อง ตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด เนื่องจากโบท็อกซ์เป็นสารที่ถูกสกัดออกมาให้มีความบริสุทธิ์สูง จึงมีระยะการออกฤทธิ์ที่ไม่ถาวร ทั้งนี้ระยะเวลาการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อก็อาจจะแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อให้กล้ามเนื้อไม่กลับมาหดเกร็งอีก จึงควรกลับมาฉีดซ้ำตามคำแนะนำของแพทย์
  12. เมื่อเกิดสิ่งผิดปกติใดๆหรือมีข้อสงสัยควรเข้าพบแพทย์ที่ทำการรักษา

 

error: Content is protected !!