มาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องสิว

สิวคืออะไร

          การอักเสบของรูขุมขนและต่อมไขมันที่ทำงานผิดปกติ โดยสิวมักจะเกิดขึ้นในบริเวณไขมันมีความหนาแน่น เช่น ใบหน้า หน้าอก หลัง อาการของสิวจะเกิดขึ้นกับทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะช่วงอายุ 14 – 20 ปี เกิดจากฮอร์โมนเพศมีการกระตุ้นต่อมไขมันให้สร้างไขมันและกระตุ้นชั้นหนังกำพร้าบริเวณรูขุมขนให้มีความหนาเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันบริเวณทางออกของไขมันจึงเกิดเป็นสิวขึ้น และปัจจัยที่ทำให้สิวกำเริบได้แก่ อาการเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ เหงื่อออกมากกว่าปกติ การใช้เครื่องสำอางค์ การสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจากการล้างหน้าไม่สะอาด หรือแม้กระทั่งการแกะ เกา บีบบริเวณที่เป็นสิว

สาเหตุของการเกิดสิว

สิวเกิดจากการอุดตันบริเวณรูขุมขน ที่มาจากหลากหลายสาเหตุที่เป็นปัจจัยหลัก เช่น

  1. สภาพอากาศและมลภาวะ อาจจะส่งผลทำให้เกิดสิวได้ เช่น สภาพอากาศแสงแดดที่ร้อนจัด ฝุ่นควันจากท้องถนน หรือมลภาวะต่างๆจึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งสกปรกและเข้ามาอุดตันที่รูขุมขนได้
  2. เกิดจากฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวได้ เนื่องจากระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนในคนไข้บางรายมีระดับที่สูง ทำให้เกิดการกระตุ้นของต่อมไขมันขนาดใหญ่ จึงทำให้ร่างกายสร้างไขมันออกมามากเกินขนาดทำให้เกิดเป็นสิว
  3. เกิดจากความครียด อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้หลายอย่าง เช่น ไม่มีสมาธิในการทำงาน หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย ปวดหลัง นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง และส่งผลเสียต่อผิวทำให้เกิดสิว ผมร่วง โรคผิวหนัง ภูมิแพ้ ลมพิษ เหงื่อออกมากกว่าปกติ อาการเหล่านี้เกิดขึ้นจากความเครียดส่งผลให้ร่างกายหลั่งออร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น จึงก่อให้เกิดผิวมันและเป็นสิว
  4. เกิดจากการใช้เครื่องสำอางค์และครีมบางประเภทที่อาจทำให้เกิดสิว ในคนไข้บางรายอาจเกิดอาการแพ้สารบางประเภทที่อยู่ในส่วนผสมของเครื่องสำอางค์ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำหอม และสารตกค้างที่อยู่ในเครื่องสำอางค์อาจก่อให้เกิดการกระตุ้นและอุดตันของผิวหนัง ทำให้เกิดสิวได้

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดสิว

  1. คนไข้ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทของมัน ของทอด และอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดการกระตุ้นไขมันเพิ่มขึ้น
  2. คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางค์หรือครีมโลชั่น ที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะอาจจะทำให้เป็นสาเหตุในการเกิดสิวอุดตันเพิ่มขึ้นได้
  3. คนไข้ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง (ไม่มากเกินไป) ขึ้นอยู่กับลักษณะผิวหน้าของแต่ละบุคคล ถ้าหากว่าล้างหน้ามากเกินไปอาจทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ผลิตไขมันเพิ่มขึ้นและอาจก่อให้เกิดสิวอุดตันได้ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรีย
  4. คนไข้ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึก หรืออดนอน เพราะการนอนดึกทำให้เวลาตื่นขึ้นร่างกายจะรู้สึกไม่สดชื่น ในระหว่างวันก็อาจก่อให้เกิดภาวะเครียดได้ และความเครียดจะนำไปสู่การกระตุ้นต่อมไขมันให้หลั่งไขมันออกมามากยิ่งขึ้น
  5. คนไข้ควรสระผมบ่อยๆไม่ปล่อยให้เส้นผมมัน เพราะในเส้นผมก็มีสิ่งสกปรกและเชื้อแบคทีเรียสะสมอยู่ อาจเป็นเหตุทำให้เกิดสิวได้

วิธีการรักษาสิว

          วิธีการรักษาสิวมีด้วยกันหลากหลายวิธี ทั้งการทานยา การทายา การทำเลเซอร์ หรือแม้กระทั่งการทำหัตถการต่างๆ ซึ่งแต่ละวิธีการรักษามีความแตกต่างกันออกไป และมีประสิมธิภาพในการทำที่แตกต่างกันไปอีก

  1. การรักษาสิวโดยการทานยาฮอร์โมน หรือยาคุม จะมีผลต่อฮอร์โมน Estrogen และ Androgen ซึ่งจะส่งผลต่อการยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน
  2. การรักษาสิวที่เป็นกลุ่มของยาปฏิชีวนะ จะช่วยลดการติดเชื้อและลดอาการอักเสบของสิวพร้อมยังช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว
  3. การกดสิว เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาสิวที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวอักเสบ โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือกดลงไปบริเวณที่มีสิวอุดตันเพื่อให้สิวหลุดออกมา ซึ่งการกดสิวนั้นควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ควรกดสิวเองเพราะอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้
  4. การทำเลเซอร์รักษาสิว โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนประเมินใบหน้าคนไข้ว่าสภาพผิวเหมาะกับการทำเลเซอร์แบบใด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • IPL Laser จะช่วยรักษาสิว ลดสิวอักเสบ ลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว

วิธีดูแลตนเองหลังทำการรักษาสิว

  1. ล้างหน้าให้สะอาด เพราะในแต่ละวันเราเจอทั้งสิ่งสกปรก ฝุ่นควัน มลภาวะล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สะสมอยู่บนผิวหน้า หากเราล้างหน้าไม่สะอาดอาจทำให้สิ่งเหล่านี้ไปอุดตันรูขุมขนบนผิวหนังได้ ดังนั้นการล้างทำความสะอาดใบหน้าถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก อย่างน้อยต้องล้างหน้าเป็นประจำ เช้า-ก่อนนอน
  2. ไม่แคะ แกะ บริเวณที่รักษาสิว เพราะการที่เรานำมือไปสัมผัสบนใบหน้าอาจก่อให้เกิดสิ่งสกปรกและระคายเคืองได้ เนื่องจากมือของเราหยิบจับสิ่งของและไม่ได้ล้างให้สะอาดก่อนการสัมผัสใบหน้าบริเวณที่เป็นสิวอาจเกิดอาการอักเสบและกระจายตัวของเชื้อสิวได้
  3. ซักผ้าปูที่นอนและนำหมอนมาตากแดด เพราะหมอนหรือที่นอนสัมผัสใบหน้าเราในทุกวันอาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นเราควรเปลี่ยนปอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเพื่อความสะอาด และไม่ให้เกิดการก่อตัวของแบคทีเรีย
  4. การดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง เติมความชุ่มชื้นลดความมันบนใบหน้า ลดการระคายเคืองผิวและช่วยล้างสารพิษในร่างกายได้เป็นอย่างดี
  5. งดการทานอาหารที่เป็นของมัน ของทอด เพราะการทานอาหารประเภทของมัน ของทอด จะทำให้ร่างกายขับของมันที่ไม่จำเป็นออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ความมันบนใบหน้าอาจจะทำให้เกิดการอุดตันขึ้นจนเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ทางที่ดีคนไข้ควรเปลี่ยนมาทานอาหารประเภทของต้ม ของนึ่ง ผักและผลไม้แทนเพื่อลดความมันบนใบหน้า

สรุป

          สิวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นคนไข้ควรรู้จักกับชนิดของสิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้า เพื่อที่จะได้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและตรงจุด นอกจากนี้เพื่อให้หายจากอาการคนไข้ควรดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องตามขั้นตอนการรักษาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!