ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา ดีอย่างไร

[row]

[col span__sm=”12″]

[ux_image id=”5857″ image_size=”original”]

       ปัญหารอบดวงตาที่มักจะเกิดขึ้นกับหลายๆคน โดยเฉพาะกับกลุ่มสุภาพสตรีที่มีปัญหา ใต้ตาคล้ำมีร่องใต้ตา ดวงตาลึกโบ๋ดูไม่สดใส ริ้วรอยรอบดวงตาที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเพราะเมื่ออายุที่มากขึ้น ผิวบริเวณรอบดวงตาจะบางลง สูญเสียไขมันและคอลลาเจนที่จำเป็นในการรักษาความยืดหยุ่นของผิวบริเวณรอบดวงตา ส่วนบางคนที่มีอายุน้อยก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น มาจากพันธุกรรม ภูมิแพ้หรือการเจริญเติมโตของกระดูกช่วงเบ้าตาที่ผิดปกติ ทำให้เกิดถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และยังมีปัญหาจากการใช้สายตาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาหย่อนยานและมีริ้วรอยเกิดขึ้นก่อนวัยอันควร ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขด้วยการเติมเต็มฟิลเลอร์

[/col]

[/row]
[row]

[col span__sm=”12″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

            ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับรอบดวงตา เช่น ปัญหาร่องใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำดำ ใต้ตาโบ๋  ดูไม่สดใสอย่างที่ควร จึงควรเติมสาร Hyaluronic Acid ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตเองได้ตามธรรมชาติ มีหน้าที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำเเละเมื่อเวลาผ่านไปอายุมากขึ้น ร่างกายก็ผลิตสารเหล่านี้น้อยลง ส่งผลให้ผิวพรรณที่เคยเต่งตึง สดใสก็เริ่มหย่อนคล้อยลง ริ้วรอยก็เริ่มปรากฏชัดขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปจะช่วยให้บริเวณนั้นๆ ได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง ส่งผลให้ดูสวยขึ้น

[/col_inner]

[/row_inner]
[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″ padding=”25px 50px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”44″ color=”light” text_depth=”5″]

[title style=”center” text=”สารบัญ” tag_name=”h2″]

[row_inner_1]

[col_inner_1 span=”6″ span__sm=”12″]

[/col_inner_1]
[col_inner_1 span=”6″ span__sm=”12″]

[/col_inner_1]

[/row_inner_1]

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[section padding=”0px”]

[row v_align=”middle” h_align=”center”]

[col span=”3″ span__sm=”6″ align=”center”]

[ux_image id=”5534″ image_size=”original” width=”70″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

[/col]
[col span=”3″ span__sm=”6″ align=”center”]

[ux_image id=”5536″ image_size=”original” width=”70″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”Tel:0894394444″ target=”_blank”]

[/col]
[col span=”3″ span__sm=”6″]

[ux_image id=”5537″ image_size=”original” width=”70″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/44clinic” target=”_blank”]

[/col]
[col span=”3″ span__sm=”6″]

[ux_image id=”5535″ image_size=”original” width=”70″ image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.instagram.com/44clinic/” target=”_blank”]

[/col]

[/row]

[/section]
[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”สาเหตุของปัญหาใต้ตา” link=”#section1″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”สาเหตุของปัญหาใต้ตา” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

สาเหตุที่ทำให้เกิดใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ขอบตาดำและริ้วรอยใต้ตา เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

  1. อายุ เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น ถุงใต้ตาบริเวณหนังตาจะเริ่มหย่อนยานตามอายุ ทำให้เกิดเป็นเงาบริเวณขอบตา อีกทั้งการผลิตไขมันและคอลลาเจนบริเวณผิวหนังก็ลดลง ทำให้ผิวหนังบางลงจนเห็นเส้นเลือดใต้ผิวหนังได้ชัดเจนและทำให้ความคล้ำบริเวณขอบตายิ่งชัดเจนขึ้น
  2. ความเครียดและการนอนพักผ่อนน้อย ความเครียดสะสมหรือความเครียดเรื้อรังอาจส่งผลให้มีปัญหาในการนอนหลับ ทำให้ผิวซีดจางและดวงตาบุ๋มลึกมากขึ้นจนสามารถสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ตาได้ชัดเจน
  3. อาการแพ้ ภูมิแพ้ เพราะหากเกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นตาจะทำให้ระคายเคืองดวงตาและเผลอไปขยี้ตาได้ ซึ่งอาจส่งผลให้ขอบตาดำ หรือเกิดการคัดจมูก และอาการคัดจมูกอาจทำให้เส้นเลือดบริเวณดวงตาและจมูกบวมขึ้นจนทำให้ผิวบริเวณใต้ดวงตาดำคล้ำขึ้นได้เช่นกัน
  4. ภาวะขาดน้ำ เมื่อร่างกายไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอตามปริมาณที่ต้องการ เซลล์ผิวก็จะไม่กระจ่างใส ส่งผลให้รอยดำคล้ำใต้ตาชัดเจนยิ่งขึ้น
  5. การตั้งครรภ์ เมื่ออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวจนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา
  6. การสูบหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการสูบบุหรี่ทำให้ขอบตาดำคล้ำและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้เส้นเลือดใต้ผิวหนังขยายตัวจนเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ดวงตา
  7. แสงแดด แสงแดดอาจกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีที่ผิวหนังเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผิวหน้าบริเวณขอบตาดำคล้ำขึ้นได้

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[gap height=”80px”]

[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”การแก้ปัญหาใต้ตา” link=”#section2″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”การแก้ไขปัญหาใต้ตา” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

วิธีการแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ใต้ตาลึก ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ขอบตาดำและริ้วรอยใต้ตา สามารถแก้ไขได้โดยวิธีต่างๆดังนี้

  1. ฟิลเลอร์ใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด ทั้งริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ขอบตาดำ หลังฉีดเห็นผลทันที เป็นหัตถการที่ไม่มีแผลและมีความเป็นธรรมชาติมาก ช่วยให้หน้าเด็กลง ผิวชุ่มชื้น ดูสดใสขึ้น
  2. Filorga MHA10 การฉีดเมโสเพื่อแก้ไขรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ปรับสีผิวใต้ดวงตาที่หมองคล้ำให้ดูสว่างใสมากขึ้น ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสุขภาพดี
  3. Cytocare เป็นการเติมสารที่มีประโยชน์ให้กับผิว ช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเร่งการผลัดเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ทำให้ความหมองคล้ำที่สะสมบริเวณใต้ตาดูสว่างใส คืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว
  4. PRP การฉีด PRP ใต้ตาเป็นการนำเกล็ดเลือดของตัวเราเข้ามาแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากภายใน ให้ผิวอิ่มฟูขึ้น กระตุ้นคอลลาเจน ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการฉีดฟิลเลอร์ แต่ประสิทธิภาพในการทำงานของPRPจะอยู่ได้สั้นกว่าฟิลเลอร์ เรียกได้ว่าการฉีด PRP นั้น เป็นเหมือนฟิลเลอร์ที่มาจากร่างกายของตัวเองเลยก็ว่าได้

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[gap height=”80px”]

[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร” link=”#section3″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า โดยสาเหตุหลักของปัญหา อาจจะเกิดจากทั้งพันธุกรรมและภูมิแพ้ การฉีดฟิลเลอร์จะทำให้รอยคล้ำใต้ตาลดน้อยลง
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก อาจจะเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรมหรืออาจจะเกิดจากร่างกายขาดวิตามินC วิตามินK ธาตุเหล็ก อายุที่เพิ่มขึ้นก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง แต่ฟิลเลอร์จะช่วยเข้าเติมเต็มบริเวณใต้ตาที่ลึกให้ดูฟูและสดใสมากขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย โดยสาเหตุอาจเกิดได้ทั้งจากผู้อายุที่มากขึ้นและกรรมพันธุ์ ไขมันบริเวณใต้ตาที่ตกลงมาเป็นถุงใต้ตาสามารถใช้ฟิลเลอร์ในการดันไขมันบริเวณใต้ตาให้กลับลงไปหรือเพื่อตกแต่งบริเวณใต้ตาให้ดูเรียบเนียนได้
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตาหรือรอยเหี่ยวย่นบริเวณรอบดวงตา อาจจะเกิดขึ้นได้จากผู้ที่มีอายุมากขึ้นหรือคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวลดลง ฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยให้ผิวบริเวณรอบดวงตาดูเรียบเนียน ริ้วรอยร่องใต้ตาดูจางลง ทำให้รอบดวงตาดูสดใส อวบอิ่มมากขึ้น

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม” link=”#section4″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่ได้รับควมนิยมมากในปัจจุบัน การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีความปลอดภัยสูงไม่เป็นอันตราย เพราะสารที่นำมาฉีดเป็นกรดไฮยาลูโรนิค เอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ มีคุณสมบัติเด่นในการกักเก็บน้ำใต้ผิว อุ้มน้ำได้ดี รักษาความชุ่มชื้น และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ดังนั้นควรทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ คลินิกเสริมความงามที่ได้รับมาตรฐาน และควรตรวจสอบวันหมดอายุของฟิลเลอร์ทุกครั้งก่อนทำการฉีด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[row]

[col span__sm=”12″]

[ux_image id=”5858″ image_size=”original”]

[/col]

[/row]
[section]

[scroll_to title=”ข้อดีข้อเสีย” link=”#section5″ bullet=”false”]

[row]

[col span=”6″ span__sm=”12″ align=”center” bg_color=”rgba(4, 33, 125, 0.186)” bg_radius=”18″]

[title style=”bold-center” text=”ข้อดีของฟิลเลอร์ใต้ตา” color=”rgb(21, 123, 29)”]

[ux_text font_size=”1″ text_color=”rgb(0,0,0)”]

          ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้อย่างตรงจุดโดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่มีปัญหา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดำ ใต้ตาลึกหรือริ้วรอยรอบดวงตา โดยจะเห็นผลหลังทำทันที สารฟิลเลอร์แท้สามารถอยู่ในร่างกายได้นาน 1 – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์) และจะสลายไปเองตามธรรมชาติโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง

[/ux_text]

[/col]
[col span=”6″ span__sm=”12″ bg_color=”rgba(4, 33, 125, 0.186)” bg_radius=”18″]

[title style=”bold-center” text=”ข้อเสียของฟิลเลอร์ใต้ตา” color=”rgb(230, 0, 0)”]

[ux_text line_height=”1.5″ text_color=”rgb(0,0,0)”]

            ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือเนื่องจากบริเวณรอบดวงตามีความบอบบางและมีเส้นเลือดจำนานมากหากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพออาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือหากฉีดกับบุคคลที่แอบอ้างเป็นแพทย์อาจจะทำให้ตาบอดได้ ดังนั้นก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ สถานที่ที่ใช้บริการและแพทย์ที่ทำการฉีดก่อนทุกครั้ง

[/ux_text]

[/col]

[/row]

[/section]
[gap height=”80px”]

[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”ฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล” link=”#section6″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

[row_inner_1]

[col_inner_1 span__sm=”12″ padding=”0px 0px 0px 0px” margin=”0px 0px -43px 0px”]

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเห็นผลหลังทำการฉีดทันที และจะค่อยๆดีขึ้น 4 – 5 วัน แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนในช่วง 2 – 3 สัปดาห์หลังทำการฉีด ว่าริ้วรอยใต้ตาดูลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ และผิวบริเวณใต้ตาดูตื้นขึ้น

[/col_inner_1]

[/row_inner_1]

[/col_inner]

[/row_inner]
[gap height=”80px”]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

[scroll_to title=”ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน” link=”#section7″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน” tag_name=”h2″]

[row_inner_1]

[col_inner_1 span__sm=”12″]

หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์ที่ได้ จะอยู่ได้นานประมาณ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อหรือรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น เช่น การหลีกเลี่ยงความร้อน การทำเลเซอร์ เป็นต้น

[/col_inner_1]

[/row_inner_1]

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[gap height=”80px”]

[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี” link=”#section8″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อย่างแรกที่ 44Clinic เลือกใช้คือฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้มั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่เราเลือกใช้เป็นฟิลเลอร์แท้และปลอดภัย โดยแพทย์จะทำการประเมินว่าคนไข้เหมาะกับการใช้แบรนด์ไหนมากที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งในปัจจุบันฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและได้รับความนิยมสูงสุดก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปดังนี้

  • Juvederm Volite เป็นเนื้อเจลที่มีความละเอียดและมีความอ่อนนุ่ม มีความนิ่มระดับปานกลางใช้เติมเต็มผิวชั้นตื้นจึงเหมาะสำหรับการเติมบริเวณใต้ตาที่มีผิวบางเพราะฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน
  • Juvederm Volbella เป็นเนื้อเจลที่มีโมเลกุลขนาดเล็กที่มีความละเอียดมาก มีความเรียบเนียนเหมาะสำหรับฉีดบริเวณผิวหนังบางๆ ริ้วรอยบางๆ
  • Restylane Vital Light เป็นเนื้อเจลที่มีโมเลกุลบางเบา มีความละเอียดและมีความนิ่มมาก มีความยืดหยุ่นที่ดีจึงเหมาะสำหรับการฉีดบริเวณใต้ตา เพราะจะช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเนียนกลืนไปกับผิว
  • Neuramis Deep ฟิลเลอร์ตัวนี้เนื้อสัมผัสค่อนข้างเฟิร์ม เติมเพื่อเพิ่มวอลลุ่มได้ดี ฟิลเลอร์ตัวนี้ไม่ฟูมาก ดูเนียนเป็นธรรมชาติ และราคาย่อมเยาว์
  • Yvoire Volume Plus เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุขนาดใหญ่ มีความคงตัวสูง ขึ้นรูปได้ดี เหมาะสำหรับการเติมเต็มในชั้นลึกบริเวณใต้ตา

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[section]

[ux_image id=”5605″ image_size=”original” link=”https://44clinic.com/articles/”]

[/section]
[gap height=”80px”]

[scroll_to title=”ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์” link=”#section9″ bullet=”false”]

[section label=”Simple Center” bg_color=”rgb(245, 245, 245)” padding=”60px” height=”300px”]

[row h_align=”center”]

[col span=”10″ span__sm=”12″ align=”center”]

[ux_text line_height=”0.75″]

ข้อปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

คนไข้สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ในบทความนี้
[/ux_text]
[button text=”คลิกที่นี่” style=”shade” size=”large” radius=”99″ depth=”5″ depth_hover=”5″ expand=”true” link=”https://44clinic.com/aftercare/”]

[/col]

[/row]

[/section]
[gap height=”80px”]

[row]

[col span__sm=”12″]

[scroll_to title=”สรุป” link=”#section10″ bullet=”false”]

[title style=”bold” text=”สรุป” tag_name=”h2″]

[row_inner]

[col_inner span__sm=”12″]

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหา การมีใบหน้าที่แก่กว่าวัย เนื่องจากมีริ้วรอยใต้ตา ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ใต้ตาลึก มีความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาดูไม่สดใส ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาจึงเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด โดยให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ตอบโจทย์ให้กับคนไข้อย่างแน่นอน

[/col_inner]

[/row_inner]

[/col]

[/row]
[row]

[col span__sm=”12″ padding=”25px 0px 0px 50px” bg_color=”rgb(1, 24, 126)” bg_radius=”25″ color=”light”]

อ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับฟิลเลอร์

[/col]

[/row]
[row]

[col span__sm=”12″]

[ux_image id=”5750″ image_size=”original” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

[/col]

[/row]
[row]

[col span=”4″ span__sm=”12″]

[ux_image id=”5574″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://lin.ee/pOMCixe” target=”_blank”]

[/col]
[col span=”4″ span__sm=”12″]

[ux_image id=”5572″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”tel:089439444″ target=”_blank”]

[/col]
[col span=”4″ span__sm=”12″]

[ux_image id=”5575″ image_size=”original” height=”75px” image_hover=”zoom” image_hover_alt=”zoom” link=”https://www.facebook.com/messages/t/106283810849506″ target=”_blank”]

[/col]

[/row]

Comments

หนึ่งความเห็นตอบกลับที่ “ฟิลเลอร์ใต้ตา”

  1. […] อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ใต้… […]

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *